วันนี้บ้านติฟูลจะมาแนะนำน้ำมันหอมระเหยที่เรามักจะชอบเห็นใช้คู่กับเครื่องพ่นอโรม่าตามบ้านและร้านค้า ที่มีกลิ่นหอมสดชื่น แต่หารู้ไม่ว่าน้ำมันหอมระเหยนั้นมีคุณประโยชน์มากมายหลายอย่าง
นอกจากนั้นแล้วเราจะพาคุณไปรู้จักกับน้ำมันหอมระเหยยี่ห้อไหนดีทั้ง 9 ตัว ที่เราได้คัดเลือกเอาแต่ยี่ห้อที่ไม่ผสมสารเคมีอื่นๆ มีแต่ส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยแท้ 100% มาฝากให้คุณพ่อบ้านแม่บ้านทุกท่านแล้วในบทความนี้
![]() | น้ำมันหอมระเหยยี่ห้อไหนที่มีกลิ่นให้ซื้อเยอะที่สุด: Phutawan Pure Essential Oil ซื้อได้ที่ Lazada , Shopee |
![]() | น้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์เบลนด์ยี่ห้อที่ดีที่สุด: Karmakamet Aromatherapy Pure Essential Oil (Blended) ซื้อได้ที่ Lazada , Shopee |
รีวิวน้ำมันหอมระเหยยี่ห้อไหนดี ทั้งหมด 9 แบรนด์ที่บ้านติฟูลขอแนะนำ
1.Karmakamet Aromatherapy Pure Essential Oil (Blended)

น้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์จากแบรนด์ไทยอย่างคามาคาเมตที่จัดจำหน่ายเครื่องหอมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ก้านไม้หอม เทียนหอม รวมไปถึงโลชั่นบำรุงผิว และขึ้นชื่อในเรื่องของการใช้พืชธรรมชาติ พิถีพิถันในกระบวนการทำตามแบบดั้งเดิมยาวนานมากถึง 48 ปี จุดเด่นของแบรนด์นี้คือกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์และมีความหลากหลาย ใครๆก็ต้องชอบ
โดยน้ำมันหอมระเหยของคามาคาเมตที่เราได้แนะนำนี้จะเป็นแบบผสม ซึ่งจะเป็นการใช้น้ำมันหอมระเหยจากการสกัดของพืชทางธรรมชาติ 3 ชนิดที่แตกต่างรวมกันในขวดเดียว มีให้เลือกใช้มากถึง 9 กลิ่นด้วยกัน
แต่กลิ่นที่คนนิยมใช้คงไม่พ้นกลิ่น Joy เรียกได้ว่าเป็นกลิ่นซิกเนเจอร์ของคามาคาเมตเลยก็ว่าได้ โดยมาจากการสกัดน้ำมันจากส่วนผสมของดอกลาเวนเดอร์ สาระแหน่ และดอกเจอราเนียม กลิ่นจะออกแนวหอมสดชื่น สะอาดๆ ให้ความรู้สึกที่รีเเลกซ์ ผ่อนคลาย ใครที่ยังไม่เคยลองต้องลองเดี๋ยวนี้เลยค่ะ
2.Phutawan Pure Essential Oil

น้ำมันหอมระเหยยี่ห้อไหนดีจากแบรนด์ภูตะวัน ก็เป็นอีกตัวเลือกที่เราอยากแนะนำมากๆ เพราะนอกจากเขาจะใช้การสกัดจากพืชในธรรมชาติแท้ล้วนๆแล้ว ยังเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ เป็นผลิตภัณฑ์ออแกนิคที่ได้รับตรา USDA ซึ่งเป็นตรารองรับมาตรฐานของประเทศสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว คือออแกนิคตั้งแต่กระบวนการเพราะปลูกตลอดจนการสกัด
จากเว็บไซต์ของแบรนด์ภูตะวันเขามีกลิ่นให้เลือกมากกว่า 29 กลิ่น (ใน Lazada กับ Shopee อาจจะมีกลิ่นให้เลือกไม่ครบนะ) ถ้าเพิ่งเคยลองใช้พวกเครื่องหอม ขอแนะนำกลิ่นยูคาลิปตัส จะให้ความหอมอ่อนๆกำลังดีเลยค่ะ
3.Royal Project Essential Oil

น้ำมันหอมระเหยของโครงการหลวงกลิ่นยูคาลิปตัสก็เป็นอีกตัวที่ให้ความหอม หายใจสะดวก ปลอดโปร่ง ใช้ได้เลยทีเดียวค่ะ ราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ แถมยังมั่นใจได้ว่าเป็นน้ำมันหอมระเหยแท้ ไม่มีการผสมอย่างอื่น จากเว็บไซต์ของโครงการหลวงพบว่านอกจากกลิ่นยูคาลิปตัสแล้วยังมีกลิ่นอื่นๆให้เลือก รวมทั้งหมด 8 กลิ่นเลย
ได้แก่กลิ่น ยูคาลิปตัส ตระไคร้ ส้ม สเปียร์มิ้นต์ เจอราเนียม เปปเปอร์มิ้นท์ แฝกหอม และโรสแมรี่ เห็นได้ว่าถึงแม้จะไม่ได้มีให้เลือกมากเหมือนแบรนด์อื่นๆแต่กลิ่นที่ได้บอกไปนั้นเป็นพืชเด่นๆที่ตอบโจทย์ทุกสถานการณ์เลยค่ะ
4.True Industry Pure Essential Oil

นำ้มันหอมระเหยยี่ห้อไหนดีจากแบรนด์ ทรู อินดัสทรี เป็นแบรนด์ที่มุ่งหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพ คัดสรรอย่างดีทั้งในและนอกประเทศ เพื่อนำมาผลิตน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ที่สำคัญมีการเช็คคุณภาพผ่านการทดสอบโดยใช้เครื่องแยกสาร มั่นใจว่าคุณจะได้รับน้ำมันระเหยแท้พร้อมสรรพคุณที่ครบครันแน่นอน
โดยเขามีหลายสูตรให้เลือกมากถึง 26 กลิ่น แต่กลิ่นยูคาลิปตัสเป็นกลิ่นที่นิยมมากที่สุดแล้ว เพราะมันหอมสดชื่น น่าจะถูกใจคนส่วนมาก สิ่งที่ชอบอีกอย่างของแบรนด์นี้คือนอกจากกลิ่นที่เยอะมากแล้ว ยังมีขนาดให้เลือกซื้อตั้ง 3 ขนาด คือ 10,30 และ 100 มล. ราคาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ
5.SabaiArom Essential Oils (Blended)

ปวดหัว เครียด กังวลกับชีวิตลองน้ำมันหอมระเหยกลิ่น Stess away จากแบรนด์สบายอารมณ์ดู เนื่องจากสรรพคุณของเขาครบครันจากส่วนผสมของสารสกัดจากพืชนานาชนิด เป็นน้ำมันหอมระเหยยี่ห้อไหนดีอีกสูตรที่ใช้เป็นแบบผสม หรือน้ำมันหอมระเหยเบลนนั่นเอง
ประกอบไปด้วย ตะไคร้ที่จะช่วยปรับอารมณ์ให้บารานซ์ ดอกลาเวนเดอร์ ช่วยคลายความเครียด ให้สมองผ่อนคลาย สเปียร์มิ้นต์และมักรูดช่วยทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวย สดใส ร่าเริง ให้กลิ่นหอมเย็นๆ กลิ่นอ่อนๆ ผ่อนคลาย เมื่อลองใช้คุณจะต้องหลงรักแน่นอนค่ะ
6.Amouriq Essential Oil Steam-Distilled

น้ำมันหอมระเหยจากแบรนด์อะมอริคได้ชูจุดยืนของแบรนด์ว่าใช้น้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ 100% ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติทั้งหมด ไม่ใช้สารสกัดสังเคราะห์อื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้อง ตามคอนเซป “ความบริสุทธิ์จากธรรมชาติเท่านั้นที่เราส่งมอบ” โดยมีให้เลือกซื้อทั้งหมด 10 กลิ่นด้วยกัน
กลิ่นที่คนนิยมใช้มากสุดคือกลิ่นลาเวนเดอร์จากฝรั่งเศส ให้กลิ่นหอม ไม่แรง ไม่ฉุน เหมาะกับความต้องการในการผ่อนคลาย มีหลากหลายขนาด ได้แก่ 10,30,50 และ 100 มล.
7.Panpuri Balance Pure Essential Oil (Blended)

ปัญญ์ปุริ แบรนด์ไทยชื่อดังที่หลายคนคงคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เขาก็มีจุดยืนในเรื่องของผลิตภัณฑ์ออแกนิค เรื่องคุณภาพนี่ให้ 100 คะแนนเต็ม เพราะมั่นใจถึงวัตถุดิบกระบวนการผลิตของเขาเป็นอย่างดี แถมเป็นแบรนด์ที่ถูกใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
เรื่องกลิ่นก็ต้องให้เขาเหมือนกัน โดยน้ำมันหอมระเหยของปัญญ์ปุริที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้เป็นแบบเบลน ผสมผสานเอาสารสกัดอย่างเข้มข้นจากวัตถุดิบหลายชนิดมารวมไว้ในขวดเดียว สูตรที่เรากำลังพูดถึงนี้เป็นสูตรน้ำมันหอมระเหยกลิ่นหอมตะไคร้และเปลือกส้ม แต่จริงๆแล้วมีส่วนผสมที่มากถึง 5 ชนิด
ประกอบไปด้วย ตระไคร้ เปลือกส้มจีน มะกรูด สเปียร์มินต์ และไม้หอมจันทร์อินเดีย รวมๆแล้วให้กลิ่นที่หอมแนวทรอปิคอล ชวนหลงไหล ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนอยู่ในสปา เงียบสงบ หากมองหาน้ำมันหอมระเหยยี่ห้อไหนดี ที่ดีที่สุด ปัญญ์ปุริต้องอยู่ในอันดับแน่นอนค่ะ
8.Journal Boutique Essential Oil (Blended)

น้ำมันหอมระเหนจากแบรนด์ เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ไทยที่ได้ทำเครื่องหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยได้พิถีพิถันในการเลือกเก็บเกี่ยววัตถุดิบจากช่วงเวลาที่เหมาะสม มีกลิ่นให้เลือก 3 กลิ่นด้วยกัน ได้แก่ กลิ่น Promise ให้ความรู้สึกที่สดใสร่าเริง สนุกสนาน กลิ่น Charm ให้ความรู้สึกสดชื่น มีเสน่ห์ในฉบับของตัวเอง และกลิ่นสุดท้ายที่อยากแนะนำคือกลิ่น First Love เป็นกลิ่นที่หอมดอกไม้ หวานปนเปรี้ยว สดชื่น พอดีๆ ไม่ฉุนจนเกินไป
9.Phruksa Spa Essential Oil Pure

น้ำมันหอมระเหยยี่ห้อไหนดีตัวสุดท้ายที่เราอยากนำเสนอ จากแบรนด์พฤกษา สปา ผลิตน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติแท้ แถมมีให้เลือกมากมายหลายสูตรอ้ถึง 15 กลิ่นเลยทีเดียว แต่กลิ่นที่เราอยากนำเสนอคือกลิ่นของใบชา หรือทีทรี กลิ่นจะแรงนิดนึง ให้กลิ่นเหมือนยาสมุนไพร แต่สดชื่น ช่วยผ่อนคลายอาการเหนื่อยล้าได้
การเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหย
เนื่องจากในท้องตลาดมีน้ำมันหอมระเหยวางขายอยู่มากมายทั้งในร้านค้าและช่องทางออนไลน์ ทำให้นอกจากจะไม่รู้ว่าควรจะเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหยยี่ห้อไหนดีแล้วยังเกิดคำถามว่า จะรู้ได้ยังไงว่าน้ำมันหอมระเหยนั้นบริสุทธ์แท้ 100% เรามีวิธีเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหยที่มีคุณภาพ ที่จะช่วยให้คุณได้ของที่ดีที่สุด ดังนี้
ดูจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์
ถ้าอยากได้น้ำมันหอมระเหยที่มีคุณภาพดี แนะนำเริ่มจากการเลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีความเป็นมาหรือเรื่องราว มีจุดยืนในเรื่องความพิถีพิถันและใส่ใจเกี่ยวกับน้ำมันหอมระเหย
ดูส่วนผสม
เลือกน้ำมันหอมระเหยจากส่วนผสม สูตร หรือกลิ่นที่ชอบ โดยพืชที่นำมาสกัดนั้นแต่ชนิดนั้นย่อมมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน บางสูตรก็มีการนำน้ำมันหอมระเหยมาผสมกันมากกว่า 2 ชนิดขึ้นไป (Essential Oil Blends) เพื่อสร้างกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์และเพิ่มประโยชน์การใช้งานให้มากขึ้น
เลือกน้ำมันหอมระเหยกลิ่นไหนดี: 5 สูตรยอดนิยมในน้ำมันหอมระเหย ได้แก่
- ลาเวนเดอร์ (Lavender): ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด ช่วยยับยั้งความเครียดและวิตกกังวล ทำให้นอนหลับดีมากขึ้น
- ทีทรี (Tea tree): ช่วยฆ่าเชื้อ รักษาสิว เชื้อราในเล็บ และทำให้บาดแผลสมานได้เร็วขึ้น
- เปปเปอร์มินท์ (Peppermint): ช่วยอาการปวดหัว เวียนหัว ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดการปวดคันจากแมลงสัตว์กัดต่อยและยังช่วยบรรเทาผิวไหม้จากแสงแดดได้
- ยูคาลิปตัส (Eucalyptus): ช่วยให้หายใจสะดวก ลดอาการปวดเมื่อย ช่วยฆ่าเชื้อโรค
- ส้ม (Orange): ช่วยลดความเครียด วิตกกังวล ลดอาการปวด ช่วยให้สดชื่น และยังบำรุงผิวพรรณอีกต่างหาก
ดูคำว่าน้ำมันหอมระเหยแท้
บนแพคเกจมักจะมีข้อความระบุว่า “Essential Oil” หรือน้ำมันหอมระเหยแท้ ควรหลีกเลี่ยงข้อความโฆษณาคำว่า “Perfume Oil” หรือ “Fragrance Oil” และ “Aroma Oil” ซึ่งมีการผสมของสารเคมีเพื่อเพิ่มความหอม เราไม่นับว่าเป็นน้ำมันหอมระเหยแท้
ดูแพคเกจจิ้ง ขวดสีทึบแสง
น้ำมันหอมระเหยที่ดีและมีคุณภาพ มักจะมาพร้อมกับแพคเกจจิ้งขวดสีทึบแสง สีเข้ม อย่างสีน้ำตาลและจะต้องเป็นขวดแก้วเพราะมันไม่เสื่อมคุณภาพง่ายเหมือนขวดพลาสติก และแน่นอนว่ามันจะช่วยรักษาคุณภาพของน้ำมันหอมระเหยขวดนั้นด้วย
ดูราคา
สำหรับเราแล้ว คิดว่าน้ำมันหอมระเหยแท้ จะมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปริมาณ กล่าวคือมีราคาแพงมากเมื่อเทียบกับปริมาณอันน้อยนิด ยิ่งปริมาณมากก็จะมีราคาสูงขึ้นไปอีก แต่นั่นก็เป็นเพราะมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของพืช การเก็บเกี่ยว กระบวนการสกัด และอื่นๆ อีกมากมาย ถ้าหากคุณเจอน้ำมันหอมระเหยที่มีราคาถูกเกินจริงให้สังสัยไว้ก่อนเลยว่านั่นอาจไม่ใช่น้ำมันหอมระเหยแท้
คำถามที่พบบ่อย
น้ำมันหอมระเหยคืออะไร?
น้ำมันหอมระเหยหรือ Essential Oil ได้มาจากการสกัดอย่างเข้มข้นจากส่วนผสมของพืชและผลไม้ด้วยวิธีต่างๆ โดยจะมาจากส่วนของใบ ดอก ราก ลำต้น ผลและเมล็ด เรียกได้ว่ามาจากทุกส่วนเลยก็ว่าได้ค่ะ
แต่จะต้องใช้วัตถุดิบเหล่านั้นในปริมาณมากพอ เพื่อที่จะได้น้ำมันหอมระเหยเข้มข้น พร้อมกลิ่นหอมที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ จุดเด่นของน้ำมันหอมระเหยคือ ส่วนผสมทั้งหมดมาจากพืชหรือดอกไม้ธรรมชาติแท้ 100% จะต้องไม่ผสมสารเคมีหรือแต่งกลิ่นสังเคราะห์ใดๆ
น้ำมันหอมระเหยช่วยอะไร?
น้ำมันหอมระเหยเป็นยาวิเศษถูกนำมาใช้ใน Aromatherapy หรือศาสตร์ที่ใช้น้ำมันหอมระเหยแท้ 100% เพื่อการกระตุ้นผ่อนคลายระบบสมองและประสาทใช้บำบัดบรรเทาอาการของโรคต่างๆร่วมกับการใช้ยาและยังใช้เกี่ยวกับความงามอย่าง สปา การรักษาผิวหนังและเส้นผม
อย่างไรก็ตามผลที่ได้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของพืชที่นำไปสกัดกล่าวคือมันมีประโยชน์ที่แตกต่างกันตามพืชแต่ละชนิด ประกอบกับปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น อารมณ์ อายุ เพศ ข้างล่างนี้คือประโยชน์ในการใช้น้ำมันหอมระเหยที่มักพบได้ทั่วไป
- ช่วยให้รู้สึกสดชื่น มีพลัง
- ช่วยผ่อนคลาย ลดความเครียดและความวิตกกังวล
- ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น
- ช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง
- ช่วยบรรเทาอาการปวด(ท้อง,กระดูก,ข้อต่อและหัวเข่า)
ใช้น้ำมันหอมระเหยแบบไหนได้บ้าง?
คนส่วนใหญ่นิยมนำน้ำมันหอมระเหยมาสูดดมและทาผิวเพื่อความสดชื่น ผ่อนคลาย หลายๆบ้านนิยมนำน้ำมันหอมระเหยมาเป็นตัวช่วยทำให้บ้านหอม สร้างบรรยากาศให้บ้านน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ข้างล่างนี้เป็นวิธีแนะนำการใช้น้ำมันหอมระเหยที่นำไปปฏิบัติตามได้
การใช้น้ำมันหอมโดยการสูดดม
การใช้น้ำมันหอมระเหยโดยการสูดดมเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลเร็วมากที่สุด เมื่อเราสูดดมน้ำมันหอมระเหยเข้าไป มันจะเช้าสู่การรับรู้กลิ่น จากนั้นเข้าสู่กระบวนการแปรผลไปยังก้านสมองที่ควบคุมจิตสำนึก
และกระจายเข้าสู่อวัยวะต่างๆภายในร่างกาย ที่จะให้ผลในทางบวกทั้งทางกายและจิตใจ มีหลากหลายวิธีให้เลือกใช้ แน่นอนว่านอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้วมันยังเป็นวิธีสร้างบรรยากาศให้กับบ้านของคุณด้วย
- สูดดมโดยตรงจากขวด: สูดอย่างรวดเร็วสัก 2-3 ครั้ง
- ใช้กับน้ำอุ่น: เป็นวิธีเบสิคๆอีกวิธีหนึ่ง ทำได้ง่าย เพียงแค่หยดน้ำมันหอมระเหยลงในถ้วยน้ำอุ่น จากนั้นสูดลึกๆประมาณ 1-2 นาที สามารถทำต่อเรื่อยๆได้
- ใช้ผ่านเครื่องพ่นหรือเครื่องกระจายกลิ่น: เป็นหนึ่งในวิธีทำให้บ้านหอม แต่ไม่ควรใส่น้ำมันหอมระเหยโดยตรงลงในเครื่องพ่นอโรม่า ควรหยด 5-10 หยดผสมกับน้ำ 1 ถ้วยตวง ทั้งนี้ควรอ่านวิธีการใช้งานของผลิตภัณฑ์นั้นๆอย่างเคร่งครัด สามารถทำได้ทุกๆวัน วันละกี่ครั้งก็ได้ แต่ทั้งนี้เราแนะนำว่าควรเปิดใช้ไม่เกิน 1 ชม.ต่อครั้ง
- ใช้ผ่านก้านไม้หอม: สามารถนำน้ำมันหอมระเหยที่ชอบไป DIY เป็นก้านไม้หอม ช่วยกระจายกลิ่น ปรับอากาศ ทำให้บ้านหอม สร้างสภาพแวดล้อมในทางบวกได้ แนะนำหยดน้ำมันหอมระเหยผสมกับน้ำมันนำพา(Carrier oil) อย่างน้ำมันมะพร้าวที่ผ่านกระบวนการแยกส่วนน้ำมันและไขมันออกจากกัน น้ำมันเมล็ดดอกคำฝอยหรือน้ำมันจากสวีทอัลมอนด์ ถ้าถามว่าเราจะผสมกับน้ำได้ไหม ความจริงทางวิทยาศาสตร์คือไม่ได้ เพราะมันจะแยกชั้นเหมือนน้ำกับน้ำมันนั่นเองค่ะ
- ใช้หยดบนถุงหอม: หยดลงบนถุงหอมสามารถเก็บไว้ตามห้องน้ำ รถยนต์ หรือตู้เสื้อผ้า ช่วยสร้างบรรยากาศให้กับบ้าน
- ใช้ผ่านสเปรย์: หยดน้ำมันหอมระเหยประมาณ 5-10 หยดต่อน้ำ 1 ถ้วยผสมส่วนผสมทั้งหมดลงในขวดสเปรย์ เขย่าก่อนใช้ทุกครั้ง และสเปรย์ยังพื้นที่ที่ต้องการ
การใช้น้ำมันหอมระเหยโดนการทาลงบนผิว
สามารถใช้น้ำมันหอมระเหยทาลงบนผิวหนังเพื่อประทินผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และใช้นวดเพื่อความผ่อนคลายได้เหมือนกัน แต่วิธีนี้ไม่ควรทาน้ำมันหอมระเหยกับผิวโดยตรง จะต้องทำให้เจือจางลงก่อน โดยการใช้น้ำมันนำพาช่วยทำให้เจือจาง
เหตุผลก็เพราะว่ามันทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนังได้ ถึงแม้มันจะมาจากวัตถุดิบธรรมชาติก็เถอะ เราแนะนำให้ศึกษาอย่างละเอียดของน้ำมันหอมระเหยที่มาจากพืชแต่ละชนิดก่อนว่าสามารถนำไปใช้กับผิวได้ โดยตรงหรือไม่ น้ำมันหอมระเหยแบบไหนที่เหมาะกับประเภทผิวของคุณมากที่สุด ข้างล่างนี้เป็นไอเดียในการใช้น้ำมันหอมระเหยลงบนผิวหนัง
- ใช้นวด: หยดน้ำมันหอมระเหยผสม 2-3 หยดกับน้ำมันนำพา อย่างน้ำมันมะพร้าว น้ำมันอโวคาโด หรืออื่นๆตามความชอบ หรือจะใช้วิธีผสมกับน้ำเปล่าเป็นขวดสเปรย์แล้วฉีดลงบนผิว
- ใช้ทาผิวหน้าและผิวกาย: หยดน้ำมันหอมระเหย 1-2 หยดลงบนโลชั่นทาผิว
- ใช้อาบน้ำ: สามารถหยดลงในอ่างอาบน้ำโดยตรงได้แต่อย่าลืมว่าน้ำกับน้ำมันหอมระเหยไม่เข้ากัน แต่ถ้าผสมกับเจลอาบน้ำและแชมพูจะช่วยได้มากกว่า โดยหยด 5-8 หยด ฃหรือแล้วแต่คำแนะนำของผลิตภัณฑ์
น้ำมันหอมระเหยไม่เหมาะกับใคร?
น้ำมันหอมระเหยไม่ไดเเหมาะกับทุกคน หากคุณเป็นหนึ่งในกรณีข้างล่างนี้เราแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
- เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
- สตรีมีครรภ์
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคลมชัก โรคเบาหวาน และผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูง
- ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
น้ำมันหอมระเหย VS น้ำมันอโรม่า ต่างกันยังไง?
อย่างที่เรารู้กันแล้วว่าน้ำมันหอมระเหยจะมาจากการสกัดจากพืชธรรมชาติทั้งหมด 100% มีความเข้มข้นสูง แต่น้ำมันอโรม่า (Aroma oil) จะมีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยอยู่บางส่วน ส่วนใหญ่จะแต่งกลิ่นสังเคราะห์ให้ใกล้เคียงกับกลิ่นของธรรมชาติของพืชนิดนั้นๆมากๆ มีหลากหลายกลิ่นให้เลือกมักพบได้ในน้ำหอม สรุปคือมันจะให้กลิ่นมากกว่าเรื่องประโยชน์อื่นๆ
น้ำมันหอมระเหยหมดอายุได้ไหม?
น้ำมันหอมระเหยไม่หมดอายุแต่ว่าเสื่อมสภาพได้เมื่อเปิดขวดใช้งานแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานมากถึง 2 ปี ขวดบรรจุที่มีคุณภาพกับฝาปิดจึงมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยรักษาอายุการใช้งานได้นานมากขึ้น
สรุปส่งท้าย
เห็นไหมหล่ะว่าน้ำมันหอมระเหย นั้นมีคุณสมบัติมากมายหลายอย่างทั้งสำหรับร่างกายและจิตใจ แต่ขึ้นอยู่กับประเภทของพืชที่ถูกนำมาสกัด ซึ่งทั้ง 9 ยี่ห้อน้ำมันหอมระเหยยี่ห้อไหนดีที่เราได้แนะนำคุณไป เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ เป็นน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์แท้ แพคเกจตรงตามมาตรฐาน ถึงแม้มันจะราคาสูงพอสมควรแต่รับรองว่าคุณจะได้น้ำมันหอมระเหยที่ดีที่สุดไปใช้แน่นอนค่ะ