แก้วปั่นจะตอบโจทย์ในการทำเมนูเครื่องดื่มอร่อยๆไว้ดื่มเองที่บ้าน ที่ทำงาน ฟิตเนส หรือทุกที่ที่คุณต้องการเนื่องจากมันมีน้ำหนักเบา พกพาง่าย เพียงแค่เสียบสาย USB ชาร์จ จากนั้นมันก็พร้อมออกไปกับคุณแล้ว บางรุ่นที่ต้องเสียบปลั๊ก ถึงแม้มันจะดูเทอะทะกว่า แต่หากคุณปั่นเสร็จ ถอดขวดปั่นออก แล้วปิดฝาก็พาพาไปกับคุณได้เช่นเดียวกัน บทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับแก้วปั่นยี่ห้อไหนดีทั้ง 6 ตัวที่น่าใช้งานมากที่สุดในตอนนี้ พร้อมแล้วไปอ่านกันเลยค่ะ
ยาวไปไม่อ่าน งั้นเราสรุปให้!
6 อันดับแก้วปั่นยี่ห้อไหนดีที่น่าใช้มากที่สุดของปี 2023
1.Electrolux รุ่น E3CB1-200S
| ความจุ: 600 มล. กำลังไฟ: 300W ประเภท: มีสายเสียบปลั๊ก |
Electrolux E3CB1-200S เป็นแก้วปั่นที่น่าซื้อมากที่สุด ประการแรกเป็นเพราะเป็นแก้วปั่นจากยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ ทำให้มั่นใจในเกรดคุณภาพของตัวสินค้า ทั้งตัวใบมีดสแตนเลสสตีลและแก้วปั่นมีให้ 2 ชุดพร้อมฝาปิด ทำจากพลาสติกที่หนาทนทาน ไม่ดูดสี ไม่ติดกลิ่น ล้างทำความสะอาดง่าย ใช้ได้ยาวๆ อีกทั้งมันยังล้างกับเครื่องล้างจานได้
ประการที่สองคือเราได้ใช้เครื่องปั่นตัวนี้มาก่อนทำให้ทราบว่าพลังการปั่นของมันค่อนข้างแรงเลยค่ะ ถ้าคุณต้องการแก้วปั่นที่สามารถปั่นน้ำแข็งหรือผลไม้แช่แข็งได้ มันจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน และถึงแม้มันจะต้องใช้สายเสียบปลั๊กในการทำงาน แต่ตัวแก้วปั่นสามารถถอดส่วนของใบมีดออก แล้วปิดฝาเพื่อพกพาไปยังที่ต่างๆกับคุณได้
สรุปได้ว่า Electrolux E3CB1-200S เป็นตัวเลือกอันดับแรกถ้าคุณต้องการแก้วปั่นที่มีพลังมอเตอร์แรง ปั่นสมูทตี้ได้เนื้อเนียนนุ่มเหมือนเครื่องปั่นรุ่นใหญ่ อีกทั้งยังพกเครื่องดื่มไปกับคุณได้ทันที
- ขนาดเล็กกระทัดรัด
- สะดวก น้ำหนักเบา
- มีฝาปิดพร้อมดื่ม
- ฐานใบมีดถอดออกได้
- โถพลาสติกไม่เหมาะกับการทำเมนูเครื่องดื่มร้อน
2.Bear รุ่น LLJ-C04L5
| ความจุ: 450,350 มล. กำลังไฟ: 150W ประเภท: มีสายเสียบปลั๊ก |
แก้วปั่นจาก Bear รุ่น LLJ-C04L5 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆอีกรุ่นหนึ่งค่ะ เนื่องจากมีแก้วปั่นพลาสติก 2 รูปแบบมากให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นแบบขวดมีฝาปิดพร้อมหูหิ้วพร้อมพกพา และทรงแบบแก้วมีหูจับพร้อมฝาปิดที่มีช่องเสียบหลอดดูด ตัวนี้ตอบโจทย์คนที่ใช้ปั่นดื่มคนเดียวเลยทีเดียวค่ะ หรือบ้านไหนมีลูกเล็กต้องการปั่นน้ำผักผลไม้ให้ลูกดื่ม Bear LLJ-C04L5 คือตัวเลือกที่เหมาะสม
ส่วนพลังมอเตอร์ของมัน ตอบโจทย์การปั่นสำหรับเมนูดื่มเล็กๆได้เพียงพอเลยทีเดียว ปั่นละเอียดดีมากนั่นเป็นเพราะใบมีดปั่นสแตนเลสสีตล ช่วยบดสับส่วนผสมได้อย่างลงตัว เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของมันอีกอย่างคือการใช้งานผ่านการกดบนท้ายขวด/แก้วปั่นเลย ไม่ง้อปุ่มกด โดยรวมแล้วมันเป็นแก้วปั่นที่ใช้สายเสียบปลั๊ก พลังปั่นดี ปั่นเสร็จพร้อมพกพาอีกตัวที่น่าใช้มากๆเลยค่ะ
3.LocknLock รุ่น EJJ321
| ความจุ: 300 มล. กำลังไฟ: 50W ประเภท: ไร้สาย |
หากคุณต้องการแก้วปั่นยี่ห้อไหนดีที่ไม่ง้อการเสียบปลั๊กทำงาน LocknLock รุ่น EJJ321 คือตัวเลือกที่น่าพิจรณา เพียงแค่ชาร์จแบตผ่านรูเสียบ USB จากนั้นพกมันใส่กระเป๋าไปกับคุณได้ทุกสถานที่ หากต้องการใช้งานเพียงแค่ใส่วัตถุดิบที่ชอบจากนั้นกดปุ่ม แก้วปั่นก็จะทำงาน อาจเขย่าแก้วปั่นเพื่อช่วยปั่นได้ง่ายขึ้น ดูน่าสนุกไปเลยใช่ไหมหล่ะ แต่ต้องกด 2 ครั้งที่เพื่อป้องกันมันทำงานเองหากกดโดยไม่ตั้งใจ
ตัวมอเตอร์จะอยู่ติดกับฝาด้านบนมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบากว่าแบบมีสายปลั๊ก ส่วนตัวแก้วมีที่หุ้มทำจากซิลิโคนช่วยป้องกันลื่นมือขณะใช้งาน โดยรวมแล้วเป็นเป็นแก้วปั่นไร้สายจากยี่ห้อดังที่ไว้วางใจได้ มันจึงเป็นแก้วปั่นไร้สายที่น่าลงทุนมากที่สุดแล้ว
4.LHHW Automatic Stirring Cup Electric Shaker
| ความจุ: 500 มล. กำลังไฟ: – ประเภท: ไร้สาย |
ถ้าคุณกำลังมองหาแก้วปั่นสำหรับใช้ปั่นโปรตีนโดยเฉพาะ แก้วปั่นโปรตีนจาก LHHW คือตัวเลือกที่ดีที่สุด โดยมันจะไม่ได้ใช้ใบมีดสแตนเลสสตีลเหมือนแก้วปั่นอัตโนมัติแบบอื่น แต่จะใช้คล้ายๆใบพายในการปั่น นอกจากจะปั่นผงโปรตีนได้ละเอียดเนียนไปกับน้ำแล้วมันยังใช้กับเมนูอื่นได้เช่นกัน ได้แก่ ปั่นนม โอ๊ต กาแฟ ไปจนถึงผลไม้เนื้ออ่อนบางชนิด แต่ถ้าหากคุณมองหาแก้วปั่นที่ปั่นน้ำแข็งได้ ตัวนี้จะไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่
การใช้งานเหมือนแก้วปั่นไร้สายทั่วไปเลยค่ะ ใช่แล้ว!กดปั่นแล้วเขย่า! ชาจแบตด้วยสาย USB 1 ครั้งใช้เวลาชาร์จนาน 2 ชม. แต่ว่าสามารถปั่นได้มากถึง 14 ครั้ง ตัวแท่นมอเตอร์สามารถถอดแยกออกจากแก้วปั่นได้และมีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับแก้วปั่นไร้สายรุ่นอื่น คุณภาพวัสดุโดยรวมคือเป็นที่น่าพึงพอใจจากผู้ใช้งานจริงหลายท่าน สรุปแล้วมันเป็นแก้วปั่นโปรตีนไร้สายที่จะช่วยอำนวยความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก
5.Xiaomi Mi Portable Juicer Machine
| ความจุ: 300 มล. กำลังไฟ: 45W ประเภท: ไร้สาย |
แก้วปั่นยี่ห้อไหนดีจาก Xiaomi Mi เป็นอีกหนึ่งแก้วปั่นแบบไร้สายที่เราขอแนะนำอีกตัวค่ะ เนื่องจากสามารถปั่นเมนูปั่นสุดโปรดแบบง่ายๆในเวลาที่รวดเร็วได้อย่างเพอเฟค อีกทั้งยังพกพาไปกับคุณได้ทุกที่ที่เวลา ใช้งานง่าย เพียงแค่กดปุ่มด้านบนฝาพร้อมช่วยออกแรงเขย่านิดหน่อยก็จะได้เมนูปั่นสุดโปรดพร้อมดื่ม มีซิลิโคนรอบแก้วปั่น จับง่าย ถือสะดวก ไม่หลุดมือ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มีความแตกต่างไปจากแก้วปั่นไร้สายทั่วไป แต่ด้วยราคากลางๆ และใช้งานตอบโจทย์ไม่แพ้รุ่นอื่นๆเลยค่ะ
5.Gaabor Mixer Blender Multi-purpose
| ความจุ: 300 มล. กำลังไฟ:- ประเภท: ไร้สาย |
เนื่องจากแก้วปั่นแบบไร้สายที่คุณภาพดีจากยี่ห้อดังส่วนใหญ่มีราคาค่อนข้างสูง แต่แก้วปั่นของ Gaabor นี้มีราคาที่สบายกระเป๋ามากเลยทีเดียวค่ะ การทำงานง่ายๆผ่านการกดปุ่มทำงานบนตัวฝา(มีมอเตอร์ทำงานด้านบน) จากนั้นเขย่าเพื่อช่วยให้ปั่นละเอียดมากขึ้น เนื่องจากเป็นแก้วปั่นแบบไร้สาย แต่ก็ต้องเสียบ USB สำหรับชาร์จแบตเพื่อใช้งาน ตัวแก้วปั่นมีซิลิโคนช่วยให้สะดวกต่อการจับขณะที่เครื่องทำงาน หากต้องการพกพาไปกับคุณอย่าลืมเช็คให้ชัวร์ว่ามีแบตเอตรี่เพียงพอก่อนเอาไปใช้หล่ะ
แนะนำวิธีการเลือกซื้อแก้วปั่นสำหรับใช้ส่วนตัว
ดูจากประเภทของแก้วปั่น
ในที่นี้เราจะกล่าวถึงตัวเลือกระหว่างแก้วปั่นประเภทแบบมีสายและแบบไร้สายที่ขึ้นอยู่กับความต้องการและความชอบเฉพาะของคุณ หากคุณให้ความสำคัญกับพลังงานการปั่นที่มีความสม่ำเสมอ และไม่คำนึงถึงข้อจำกัดของความคล่องตัว แก้วปั่นแบบมีสายอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
ในทางกลับกันถ้าต้องการพกพา เน้นความสะดวกสบายและไม่คำนึงถึงประสิทธิภาพของพลังปั่นที่ลดลงตามขนาดของแบตเตอรี่ แก้วปั่นไร้สายอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่อย่างไรก็ตามเราแนะนำว่าให้มองหาแก้วปั่นที่มีแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกับการชาร์จครั้งเดียว สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณจะไม่หมดพลังงานเมื่อคุณต้องการมากที่สุด
ประเภทของการปั่นที่ต้องการ
แก้วปั่นไฟฟ้าถูกออกแบบมาใช้ในการปั่นทั่วไป เช่น การทำสมูทตี้ ปั่นน้ำผักผลไม้ ไปจนถึงปั่นโปรตีน เราแนะนำว่าถ้ามีวัตถุประสงค์หลักเอาไปใช้ในการปั่นน้ำผักผลไม้แนะนำเลือกแก้วปั่นที่ใช้ใบมีดสแตนเลส เพื่อบดสับผักผลไม้ ให้ผสมกันได้อย่างลงตัว
แต่ถ้าคุณต้องการแก้วปั่นโปรตีนไม่จำเป็นต้องเลือกซื้อแก้วปั่นที่มีใบมีดก็ได้ เพราะแก้วปั่นโปรตีนมีลูกผสมหรือหัวตีที่ช่วยละลายผงโปรตีนโดยเฉพาะ ซึ่งมันจะช่วยให้ปั่นโปรตีนได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวลขึ้น
กำลังไฟฟ้าและความจุ
กำลังและความจุมอเตอร์ของแก้วปั่นแบบพกพาจะเป็นตัวกำหนดประสิทธิภาพการปั่น วัตต์ที่สูงกว่าและมอเตอร์ที่ทรงพลังช่วยให้ปั่นได้ราบรื่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับส่วนผสมที่แข็งกว่า เช่น น้ำแข็งหรือผลไม้แช่แข็ง แต่อย่างไรก็ตามแก้วปั่นแบบพกพาจะไม่สามารถปั่นน้ำแข็งก้อนใหญ่ได้ดีเท่าเครื่องปั่น ด้วยความจำกัดของขนาดของใบมีดและพลังมอเตอร์นั่นเองค่ะ
สรุปส่งท้าย
ท้ายสุดแก้วปั่นเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆหากคุณต้องการใช้สำหรับการปั่นดื่มคนเดียว พกพาไปยังสถายที่ต่างๆกับคุณได้ อีกทั้งลดความยุ่งยากในการจัดเตรียมอุปกรณ์ การทำความสะอาดแบบเครื่องปั่นขนาดใหญ่ ตอบโจทย์ผู้มีไลฟ์สไตล์ในการดื่มเมนูที่มีประโยชน์ตลอดวัน หวังว่าบทความจากบ้านติฟูลจะช่วยไขคำตอบแก้วปั่นยี่ห้อไหนดีให้กับทุกท่านได้นะคะ
