เพื่อนๆเป็นกันบ้างไหมที่นานๆทีถึงจะทำความสะอาดตู้เย็น ถึงแม้ว่าเราจะใช้ตู้เย็นทุกวันแต่ก็ไม่ล้างตู้เย็นบ่ทุกวันเหมือนกับการล้างจานหรือเช็ดเคาเตอร์ครัวทุกครั้งหลังการทำอาหาร
ในเมื่อเราไม่ต้องทำความสะอาดตู้เย็นบ่อยเหมือนเครื่องใช้ในครัวอื่นๆ แต่ยังไงก็ตามเราจำเป็นต้องทำความสะอาดตลอดอย่างน้อยทุกอาทิตย์
ในบทความนี้เราได้นำวิธีล้างตู้เย็น 4 ขั้นตอนอย่างง่ายและถูกวิธีมาให้เพื่อนๆได้อ่านกัน ถ้าพร้อมกันแล้วเราไปเริ่มกันเลยดีกว่า
ความสำคัญของการทำความสะอาดตู้เย็น
เหตุผลที่เราควรล้างตู้เย็นเพราะการทำความสะอาดตู้เย็นจะช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในอาหารหรือวัตถุดิบต่างๆที่เรากักตุนไว้ภายในตู้
ทำให้ของกินเหล่านั้นเกิดความเสียหาย มีอายุสั้นลงหรือหมดอายุได้เร็วขึ้นและบางทีเรานำมาปรุงอาหารโดยไม่รู้ว่าจะเกิดปัญหาต่อสุขภาพตามมา
เมื่อตู้เย็นสกปรกมากๆจะส่งกลิ่นเหม็น รวมไปถึงทำให้มีอายุการใช้งานที่สั้นลงด้วย ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการทำความสะอาดตู้เย็นนั้นสำคัญเป็นเรื่องที่สำคัญที่ไม่ควรปล่อยปะละเลย
ควรล้างตู้เย็นบ่อยแค่ไหน?
การล้างตู้เย็นไม่จำเป็นต้องทำบ่อยก็ได้ค่ะแต่อย่างน้อยเพื่อนๆควรโล๊ะตู้เย็นออกมาทำความสะอาด 1 ครั้งภายใน 3-4 เดือน (Deep-clean)
แต่ยังไงก็ตามเราแนะนำว่าอย่างน้อยทุกๆอาทิตย์ควรเช็คตู้เย็นว่ามีของเน่าเสียหรือหมดอายุหรือไม่และทำความสะอาดตู้เย็นด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์สะอาดเพื่อป้องกันไม่ให้ตู้เย็นสกปรกเกินไปซึ่งจะทำให้ตู้เย็นไม่เย็นได้
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
- ถังขยะ
- ผ้าเช็ดแห้ง
- ฟองน้ำ
- น้ำยาล้างจาน
- น้ำอุ่นหรือน้ำร้อน
- ผ้าไมโครไฟเบอร์สะอาด
- เบคกิ้งโซดา (ทางเลือก)
- ขวดสเปรย์ (ทางเลือก)
- น้ำส้มสายชู (ทางเลือก)
5 ขั้นตอนวิธีล้างตู้เย็นให้สะอาดและไม่ยุ่งยาก
ขั้นตอนที่ 1: นำของในตู้เย็นออกให้หมด
- ขั้นตอนแรกของการทำความสะอาดตู้เย็นคือการนำสิ่งของในตู้เย็นออกให้หมด ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบในการทำอาหารอย่างเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ไข่ น้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มที่เรากักตุนไว้
- ทิ้งสิ่งเน่าเสียเก่าๆที่ติดอยู่ในตู้เย็นลงถังขยะ เช่นอาหารค้างคืนรวมไปถึงของกินที่หมดอายุ
- ย้ายวัตถุดิบที่คิดว่ายังต้องการและสามารถเก็บรักษาได้ในระยะยาวไว้อีกที่ เช่น กระติกแช่แข็ง ตู้แช่แข็งหรือตู้เย็นอีกตู้ (ถ้ามี)
- เมื่อย้ายวัตถุดิบออกจากตู้เย็นหมดเรียบร้อยแล้ว ให้นำผ้าแห้งเช็ดเศษอาหารที่หลุดง่ายออกจากแผงชั้นวางภายใน
- นำชั้นวางหรือลิ้นชักแยกออกจากตู้เย็น
ขั้นตอนที่ 2: ล้างทำความสะอาดภายในสู่ภายนอก
- หลังจากที่นำชั้นวางออกจากตู้เย็นแล้วให้นำมาล้างทำความสะอาด โดยทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานและฟองน้ำร่วมกับน้ำอุ่นที่จะช่วยขจัดคราบสกปรกฝังแน่นที่ติดอยู่บนชั้นวางได้เร็วขึ้นจากนั้นเช็ดให้แห้งด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์สะอาด
- ผสมน้ำอุ่น 1 แกลอนกับเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะแล้วใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบส่วนผสมนั้นนำไปเช็ดภายในตู้เย็น บริเวณที่มีคราบฝังแน่นอาจจะต้องถูแรงขึ้นหรือสเปรย์ ทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วเช็ดอีกที หรือจะใช้สบู่ล้างจานแทนเบคกิ้งโซดาแทนได้เช่นกันค่ะ
- อย่าลืมทำความสะอาดขอบยางประตูตู้เย็น หลายๆคนมักจะลืมทำความสะอาดส่วนนี้ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ยางเสื่อมสภาพและทำให้ตู้เย็นไม่เย็นได้
ทางเลือก: นอกจากจะใช้วิธีที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วยังสามารถใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำยาล้างจานได้ด้วยเช่นกัน
- นอกจากทำความสะอาดภายในแล้วอย่าลืมทำความสะอาดภายนอกตู้เย็นด้วย เพราะบริเวณประตูมักจะมีรอยนิ้วมือจากการเปิดปิดตู้เย็นอยู่เป็นประจำรวมไปถึงคราบสกปรกที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการทำอาหารได้
วิธีเร่งรีบ: หากไม่ต้องการนำชั้นวางออกจากตู้เย็นให้ใช้วิธีสเปรย์บริเวณชั้นวาง จุดไหนที่มีคราบฝังให้สเปรย์ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นใช้ฟองน้ำนุ่มเช็ดทำความสะอาดบริเวณคราบสกปรกตามด้วยผ้าเพื่อเช็ดคราบสิ่งสกปรกออก สเปรย์อีกรอบและตามด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์สะอาดเช็ดอีกครั้ง |
Note:
- ไม่จำเป็นต้องถอดปลั๊กเพื่อทำความสะอาดตู้เย็น
- ข้อควรระวังกรณีที่เป็นตู้เย็นสแตนเลสไม่ควรใช้ผ้าแข็งๆเพราะจะทิ้งรอยขีดข่วนให้กับตู้เย็นของเพื่อนๆได้
ขั้นตอนที่ 3: เช็ดให้แห้ง
เมื่อล้างตู้เย็นทั้งข้างในและข้างนอกแล้วควรให้ตู้เย็นแห้งสนิทก่อนเพื่อป้องกันกลิ่นอับที่อาจเกิดขึ้นหากต้องการประหยัดพลังงานควรถอดปลั๊กออกก่อนเหมาะกับกรณีที่ตู้เย็นรุ่นใหม่ๆเป็น No-frost
วิธีเร่งรีบ: ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่สะอาดเช็ดทำความสะอาดซับให้แห้งก่อนที่จะนำอาหารหรือวัตถุดิบกลับเข้ามาใส่ในตู้เย็นอีกครั้ง |
ขั้นตอนที่ 4: นำกลับเข้ามาใส่ตู้เย็น
เมื่อทุกอย่างแห้งเสร็จสรรพให้นำชั้นวางและลิ้นชักกลับเข้าที่เดิม จากนั้นนำวัตถุดิบที่เอาออกกลับเข้ามาใส่ในตู้เย็น
อย่าลืมเช็ดทำความสะอาดกล่องภาชนะก่อนนำเข้ามาใส่เพราะบางทียังมีคราบสกปรกติดอยู่กับภาชนะเหล่านั้นด้วย
ทริคเล็กๆ: ควรออแกไนซ์จัดตู้เย็นให้เป็นระบบเพิ่มตระกร้าเพื่อแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนจะช่วยลดการเกิดคราบสกปรกให้กับตู้เย็นที่บ้านได้ดีเลยทีเดียวค่ะ
สรุปส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างกับบทความของเรากับ 4 ขั้นตอนวิธีล้างตู้เย็นให้สะอาดและไม่ยุ่งยาก พร้อมวิธีแบบเร่งด่วนสำหรับการทำความสะอาดประจำวันหรือแบบรีบเร่ง เพื่อนๆจะเห็นได้ว่าทั้ง 4 ขั้นตอนที่เราได้ให้ไปนั้นไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อนเลย
แค่เอาของออก นำออกมาล้าง เช็ดให้แห้ง และเอาของกลับเข้าไป เห็นไหมคะ ไม่มีอะไรยากเลย ดังนั้นอย่าลืมทำความสะอาดตู้เย็นกันนะ แล้วเจอกันในบทความหน้าค่ะ