3 ขั้นตอนการทำความสะอาดไมโครเวฟอย่างง่าย พร้อมหลายสูตรให้เลือกใช้

แทบจะทุกครั้งเวลาเราใช้ไมโครเวฟในการประกอบอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการ ละลายน้ำแข็ง อบ หรือ อุ่น

จะพบว่าเศษคราบอาหารมักจะกระเด็นเกาะติดอยู่ตามพื้นผิวของไมโครเวฟ 

ซึ่งหลายๆคนมักจะไม่ค่อยใส่ใจปล่อยละเลยที่จะทำความสะอาดไมโครเวฟหลังจากการใช้งานทุกครั้ง

เมื่อผ่านไปสักระยะถึงจะตระหนักถึงปัญหานั้น ก็ต่อเมื่อคราบอาหารได้เกาะติดแน่นฝังลึกไปแล้วเรียบร้อย (ลองสังเกตผนังด้านบนไมโครเวฟดูได้เลยแล้วอย่าตกใจน้า)

บทความนี้เราได้นำเทคนิค 3 ขั้นตอนพร้อมทางเลือกในการ “ทำความสะอาดไมโครเวฟ” มาให้เพื่อนๆได้นำไปใช้ดู เรามั่นใจว่ามันจะช่วยให้ไมโครเวฟของเพื่อนๆกลับมาสะอาดเอี่ยมเหมือนใหม่อีกครั้งอย่างแน่นอนค่ะ !

อ่านบทความเพิ่มเติม: รีวิว10 อันดับ ไมโครเวฟ ยี่ห้อไหน ดี ที่สุด ของปี 2023

ควรทำความสะอาดไมโครเวฟเมื่อไหร่?

หากคุณเป็นคนทีใช้ไมโครเวฟเป็นประจำทุกวันควรทำความสะอาดอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือเมื่อ spot คราบเกาะติดตามผนังด้านใน 

แต่ทางที่ดีเพื่อให้ห่างไกลจากเชื่อโรคเราแนะนำว่าควรเช็ดทำความสะอาดหลังการใช้งานทุกครั้งจะดีที่สุด

ข้อแนะนำล้างไมโครเวฟอย่างไรให้ปลอดภัย

  1. ทำความสะอาดตามคู่มือที่ได้แนะนำ เพราะในบางยี่ห้อหรือบางรุ่นจะมีข้อกำหนดหรือข้อจำกัดเฉพาะ ดังนั้นควรให้ความสำคัญกับข้อแนะนำจากคู่มือที่มีมาให้ก่อนเป็นอันดับแรก
  2. ปิดเครื่อง ถอดปลั๊กก่อนการทำความสะอาดทุกครั้ง (กรณีที่ไม่ต้องตั้งอุณหภูมิ)

ข้อนี้สำคัญมากในเรื่องของความความปลอดภัยและช่วยป้องกันไฟดูดหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้  

  1. ควรระมัดระวังไม่ให้น้ำไหลเข้าช่องระบายอากาศ เพราะอาจส่งผลเสียต่อระบบไฟฟ้าภายในเครื่องได้ (หมายถึงไม่ราดน้ำปริมาณมากๆเข้าไปโดยตรง)
  2. ไม่ควรใช้คู่กับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ใช้เคมีเข้มข้น เพราะจะทำลายผิว การเกิดคราบสนิม บนไมโครเวฟได้ รวมไปถึงคราบสามารถปะปนเข้ามาในอาหารได้ 
  3. ควรปล่อยทิ้งไว้ให้เครื่องแห้งสนิทอย่างน้อย 30 นาทีหลังการทำความสะอาดแล้ว เพื่อป้องกันกลิ่นตกค้่งไปยังอาหารก่อนใช้งานครั้งต่อไป

3 ขั้นตอนการทำความสะอาดไมโครเวฟอย่างง่าย

ขั้นตอนสุดเบสิคๆในการทำความสะอาดไมโครเวฟ เพียง 3 สเตป สะอาดหมดจดจากภายในสู่ภายนอกพร้อมวิธีในการทำความสะอาดที่หลากหลายให้เลือกใช้ ไปอ่านกันเลยค่า 

Step 1: ทำความสะอาดภายในไมโครเวฟ 

การทำความสะอาดภายในตัวไมโครเวฟนั้นสำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นส่วนที่ต้องรองรับเศษอาหารที่กระจัดกระจาย 

ถ้าไม่ทำความสะอาดเป็นประจำ จะทำให้เกิดคราบแบคทีเรียสะสม เป็นแหล่งเชื้อโรคชั้นดี และส่งผลเสียต่อสุขภาพในที่สุด 

นอกจากนั้นคราบหมักหมมนั้น ยังส่งผลให้ต้องใช้เวลาที่นานขึ้นในการอุ่นอาหารแต่ละครั้งและยังทำให้อายุการใช้งานไมโครเวฟของคุณนั้นสั้นลงเร็วขึ้นอีกต่างหาก รู้อย่างนี้เเล้วอย่าปล่อยปะละเลยเด็ดขาดนะคะ 

ถึงแม้มันจะดูเป็นปัญหาที่น่ากลัวมากๆ แต่อย่างไรก็ตามสามารถป้องกันได้โดยการทำความสะอาดมันซะ ! เราได้นำวิธีทำความสะอาดไมโครเวฟมาให้เพื่อนๆทางบ้านได้นำไปใช้ มีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ 

วิธีที่ 1: ขจัดคราบด้วยทิชชู่เปียก

วิธีนี้น้ำจากกระดาษทิชชู่เปียกเมื่อโดนความร้อนจากไมโครเวฟจะทำให้เกิดไอน้ำรอบๆพื้นผิว ส่งผลให้คราบต่างๆ ที่ติดอยู่หลุดออกมาง่ายขึ้น

เหมาะกับกรณีไหน: คราบสกปรกเล็กน้อย – ปานกลาง 

สิ่งที่ต้องเตรียม:

  • กระดาษทิชชู่เปียก 2-3 แผ่น
  • ผ้าซับแห้ง

วิธีทำความสะอาด:

  1. นำจานไมโครเวฟออกมาล้างทำความสะอาดทั่วไป 
  2. จากนั้นนำกระดาษทิชชู่เปียก 2-3 แผ่นวางไว้บนพื้นแทนที่จานไมโครเวฟ 
  3. ปิดประตู ตั้งค่าอุณหภูมิตัวเครื่องสูงพร้อมตั้งเวลา 5 นาที 
  4. เมื่อครบกำหนดเวลา ทิ้งไว้อีก 5 นาทีเพื่อให้เครื่องเย็นลง หลังจากนั้นทิ้งกระดาษทิชชู่เปียก 
  5. ใช้ผ้าแห้งเช็ดไอน้ำและคราบที่เกาะตามพื้นผิวให้สะอาดหมดจด
  6. เมื่อจานไมโครเวฟแห้งนำกลับเข้ามาใส่ไมโครเวฟ

วิธีที่ 2: น้ำยาล้างจานก็เอาอยู่ 

วิธีนี้ก็ค่อนข้างง่ายและเป็นการทำความสะอาดเบสิคทั่วไปด้วยการใช้น้ำยาล้างจานกับฟองน้ำเช็ดทำความสะอาดคราบสกปรก แต่ไม่ควรใช้น้ำราดไปเลยทีเดียว ต้องใช้แบบหมาดๆเท่านั้นหรือจะทำแบบวิธีที่ 1 ก็ได้ อ่านวิธีทำความสะอาดได้ตามข้างล่างนี้เลย 

เหมาะกับกรณีไหน: คราบสกปรกเล็กน้อย – ปานกลาง 

สิ่งที่ต้องเตรียม:

  • น้ำยาล้างจาน 
  • ฟองน้ำ (นุ่มๆ)
  • น้ำอุ่น
  • ผ้าซับแห้ง
  • ผ้าขี้ริ้ว
  • ถ้วย (ที่เข้าไมโครเวฟได้) ใช้กับกรณีที่ต้องใช้ความร้อนจากไมโครเวฟ

วิธีทำความสะอาด:

กรณีใช้ฟองน้ำขัด

  1. ปิดเครื่อง ถอดปลั๊กไมโครเวฟก่อนเพื่อความปลอดภัย
  2. นำจานไมโครเวฟออกไปล้างทำความสะอาดทั่วไป
  3. นำผ้าขี้ริ้วเช็ดทำความสะอาดภายในสำหรับคราบที่ออกง่าย 
  4. นำฟองน้ำ (ห้ามใช้ฟองน้ำแข็งๆเพราะจะทำให้เกิดรอยบนไมโครเวฟได้) จุ่มลงในถ้วยจนฟองติด พร้อมบิดหมาดๆ 
  5. นำฟองน้ำนั้นเช็ดคราบต่างๆที่ยังติดอยู่ตามพื้นผิว (ระวังอย่าให้น้ำเข้าตามช่องระบายอากาศ)
  6. ใช้ผ้าแห้งเช็ดไอน้ำและคราบที่เกาะตามพื้นผิวให้สะอาดหมดจด
  7. เมื่อจานไมโครเวฟแห้งนำกลับเข้ามาใส่ไมโครเวฟ

กรณีใช้ความร้อนจากไมโครเวฟ

  1. ผสมน้ำยาล้างจานและน้ำอุ่นในถ้วยที่ใส่ไมโครเวฟได้ 
  2. วางถ้วยในไมโครเวฟ จากนั้นปิดประตู ตั้งค่าอุณหภูมิตัวเครื่องสูงพร้อมตั้งเวลา 5 นาที 
  3. เมื่อครบกำหนดเวลา ทิ้งไว้อีก 5 นาทีเพื่อให้เครื่องเย็นลงแล้วนำถ้วยออกมา
  4. นำจานไมโครเวฟออกมาเช็ดให้แห้ง
  5. เช็ดคราบต่างๆด้วยฟองน้ำ หลังจากนั้นใช้ผ้าซับแห้งเช็ดบริเวณภายใน 
  6. นำจานไมโครเวฟวางไว้ที่เดิม พร้อมสำหรับการใช้งานครั้งต่อไป 

วิธีที่ 3: มะนาววัตถุดิบธรรมชาติช่วยขจัดคราบ

แน่นอนว่าในมะนาวมีคุณสมบัติเป็นกรดธรรมชาติบอบบางมากกว่าการใช้เคมีหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆหากเพื่อนๆยังไม่แน่ใน ลองใช้มะนาวก่อนก็ได้ค่ะ 

โดยกรดในมะนาวนั้นจะเข้าไปกัดคราบที่ฝังตามผิวของไมโครเวฟให้หลุดและช่วยทำความสะอาดง่ายขึ้นนั่นเอง

เหมาะกับกรณีไหน: คราบสกปรกเล็กน้อย – ปานกลาง 

สิ่งที่ต้องเตรียม:

  • ถ้วย (ที่เข้าไมโครเวฟได้) 
  • มะนาว 1 ลูก
  • น้ำเปล่า 1 ถ้วย
  • ฟองน้ำ
  • ผ้าซับแห้ง

วิธีทำความสะอาด:

  1. หั่นครึ่งมะนาว แล้วบีบเอาน้ำมะนาวลงในถ้วย จากนั้นใส่มะนาวอีกครึ่งหนึ่งลงในถ้วย
  2. เทน้ำเปล่า 1 ถ้วยผสมลงกับมะนาวที่ใส่ไว้ก่อนหน้านี้ คนให้เข้ากัน
  3. นำถ้วยนั่นใส่ในไมโครเวฟ
  4. ตั้งอุณหภูมิสูง แล้วอุ่นประมาณ 5 นาทีเพื่อให้เกิดไอน้ำ
  5. ใช้ฟองน้ำเช็ดทำความสะอาดคราบที่หลุดรวมไปถึงจานไมโครเวฟ (หรือจะเอาออกมาล้างก็ได้)
  6. ใช้ผ้าซับแห้งเช็ดทำความสะอาดอีกที เท่านี้เป็นอันเสร็จเรียบร้อย 

วิธีที่ 4: เบคกิ้งโซดาก็ช่วยได้!

เบคกิ้งโซดาถือเป็นตัวช่วยที่สำคัญที่อยู่คู่บ้านคู่เรือน เพราะเบคกิ้งโซดาสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง

ไม่ว่าจะเป็นด้านการทำอาหาร กำจัดกลิ่นหรือเศษอุดตัน กำจัดมดและแมลง รวมไปถึงการทำความสะอาดด้วย 

เหมาะกับกรณีไหน: คราบสกปรกเล็กน้อย – เยอะ

สิ่งที่ต้องเตรียม:

  • เบคกิ้งโซดา 
  • นำ้อุ่น 1 ถ้วย 
  • ขวดสเปรย์
  • ผ้าขี้ริ้วหรือฟองน้ำ
  • ผ้าซับแห้ง
  • ถ้วย (ที่เข้าไมโครเวฟได้) ใช้กับกรณีที่ต้องใช้ความร้อนจากไมโครเวฟ

วิธีทำความสะอาด:

กรณีสเปรย์

  1. ปิดเครื่อง ถอดปลั๊กไมโครเวฟก่อนเพื่อความปลอดภัย
  2. นำจานไมโครเวฟออกไปล้างทำความสะอาดทั่วไป
  3. ผสมน้ำอุ่น 1 ถ้วย กับเบคกิ้งโซดา 
  4. เทส่วนผสมทั้งหมดลงในขวดสเปรย์
  5. จาดนั้นสเปรย์ไปบริเวณที่คราบเกาะติด
  6. ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีแล้วใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง

กรณีใช้ความร้อนจากไมโครเวฟ 

ทำเหมือนขั้นตอนในการใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำเปล่าใส่ถ้วยไมโครเวฟ ตั้งค่าอุณหภูมิสูง ทิ้งไว้ รอให้เย็นแล้วใช้ผ้าเช็ดแห้งทำความสะอาดคราบ

วิธีที่ 5: น้ำส้มสายชูกำจัดคราบฝังลึก

น้ำส้มสายชู เป็นกรดอ่อนๆที่นิยมนำมาใช้เป็นตัวช่วยอเนกประสงค์ในงานบ้านเหมือนกันกับเบคกิ้งโซดา 

โดยน้ำส้มสายชูนั้นจะช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรกได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการล้างเครื่องซักผ้าและเครื่องใช้ในครัวเรือนอีกหลายๆอย่าง 

เหมาะกับกรณีไหน: คราบสกปรกเล็กน้อย – เยอะ

สิ่งที่ต้องเตรียม: 

  • น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 1 ถ้วย 
  • ถ้วย (ที่เข้าไมโครเวฟได้) 
  • ผ้าซับแห้ง

วิธีทำความสะอาด:

  1. ผสมน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะและน้ำเปล่าในถ้วยที่ใส่ไมโครเวฟได้ 
  2. วางถ้วยในไมโครเวฟ จากนั้นปิดประตู ตั้งค่าอุณหภูมิตัวเครื่องสูงพร้อมตั้งเวลา 5 นาที 
  3. เมื่อครบกำหนดเวลา ทิ้งประมาณ 10 นาทีเพื่อให้กรดทำปฏิกิริยากับคราบที่ฝังในไมโครเวฟเครื่องเย็นลงแล้วค่อยนำถ้วยออกมา
  4. นำจานไมโครเวฟออกมาเช็ดให้แห้ง หรือจะนำออกไปล้างทำความสะอาดทั่วไปอีกทีก็ได้ 
  5. เช็ดคราบต่างๆด้วยฟองน้ำ หลังจากนั้นใช้ผ้าซับแห้งเช็ดบริเวณภายใน 
  6. นำจานไมโครเวฟวางไว้ที่เดิม พร้อมสำหรับการใช้งานครั้งต่อไป 

วิธีที่ 6: ผลิตภันฑ์ทำความสะอาดไมโครเวฟตามท้องตลาด

น้ำยาทำความสะอาด ถือเป็นอีกตัวช่วยที่ตอบโจทย์พ่อบ้านแม่บ้านทั้งหลายที่ต้องการประหยัดเวลา ลดความเสี่ยงและยุ่งยากในการทำความสะอาดเตาไมโครเวฟที่บ้าน 

เราแนะนำผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ช่วยทำความสะอาดได้ดี ข้อจำกัดในการเลือกซื้อที่อยากแนะนำคือควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้สารเคมีที่รุนแรงเพราะจะทำให้ไมโครเวฟเกิดการเสียหายได้ 

เหมาะกับกรณีไหน: คราบสกปรกเล็กน้อย – เยอะ 

สิ่งที่ต้องเตรียม: 

  • ผ้าซับแห้ง 
  • น้ำยาทำความสะอาดไมโครเวฟ

วิธีทำความสะอาด:

  1. สเปรย์ลงบนผ้า พื้นผิวหรือบริเวณที่มีคราบเกาะกรณีที่มีคาบหนาแน่น 
  2. เช็ดทำความสะอาดทั่วไปและทิ้งไว้ 5 นาที 
  3. ใช้ผ้าซับแห้งเช็ดออกอีกที 

ผลิตภัณฑ์ทำความไมโครเวฟที่แนะนำ:โซแกนิคส์ (SOGANICS Kitchen cleaner)

คุณสมบัติ

1. Eco-Friendly
2. สูตรออเกนิคธรรมชาติ ผ่านการรับรองจากประเทศออสเตรเลีย
3. ไม่เป็นพิษ ไร้ส่วนผสมของคอรีนและแอมโมเนีย
4. เหมาะกับการทำความสะอาด: เคาเตอร์, เตาแก๊ส,เตาอบ,ไมโครเวฟ,ตู้เย็น,
โครเมียม, สแตนเลส, ลามิเนต, แกรนิต, หินสังเคราะห์, ไวนิล, ผนังและกระเบื้อง


อ้างอิง: Organics buddy

ผู้เขียนใช้ SOGANICS Kitchen cleaner อยู่ตลอดและชอบมากๆเพราะไร้สารเคมี สกัดจากธรรมชาติ แถมยังมีกลิ่นหอมแบบธรรมชาติ เช็ดเคาเตอร์ครัวได้เงาสวย 

ใช้ทำความสะอาดเครื่องใช้ในครัวเรือนที่หลากหลายรวมไปถึงไมโครเวฟ ที่สำคัญไม่ได้ทิ้งจุดคราบที่มาจากตัวผลิตภัณฑ์เลยค่ะเพราะเขาจะแห้งสลายเองไปตามธรรมชาติ 

อย่างไรก็ตามผู้เขียนใช้วิธีสเปรย์ลงบนผ้าขี้ริ้วแล้วนำไปเช็ดเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดการเสียหาย

Step 2: การทำความสะอาดประตูไมโครเวฟ

ประตูไมโครเวฟด้านในเป็นส่วนที่ถูกเศษอาหารกระจายติดอยู่เป็นประจำ 

ดังนั้นจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะต้องทำความสะอาดเพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรียด้วยเช่นกัน และควรจะทำพร้อมๆกับการทำความสะอาดภายในตามวิธีที่เลือกใช้จากขั้นตอนที่ 1

กรณีที่ต้องการทำความสะอาดทั่วไปหลังจากการใช้งานทั่วไป 

หลังจากการใช้งานทุกครั้งสามารถใช้ผ้าชุบน้ำอุ่น บิดแห้งหมาดๆ เช็ดประตูไมโครเวฟด้านในและด้านนอกให้ จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกรอบก็ช่วยลดการเกิดคราบฝังแน่นและเชื้อโรคได้เบื้องต้นค่ะ

อย่าลืม: หลังการทำความสะอาดภายในไมโครเวฟแล้ว ควรเปิดประตูทิ้งไว้เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวกและไร้กลิ่นอับ ละทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที ก่อนใช้งานในครั้งต่อไปนะคะ

Step 3: การทำความสะอาดภายนอกไมโครเวฟ 

ปิดเครื่องถอดปลั๊กหรือ กดปุ่มล๊อค(ถ้าหากมี)เพื่อป้องกันการข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น

จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำผสมกับน้ำยาล้างจานหรือสเปรย์ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเนกประสงค์ลงบนผ้า (ไม่ควรเปียกชุ่ม)และเช็ดตามพื้นผิวรวมไปถึงตามซอกปุ่มกดด้วยค่ะ

วิธีป้องกันคราบเลอะจากการใช้ไมโครเวฟ

  1. อุ่นอาหารที่ใช้กับภาชนะที่สามารถใส่ไมโครเวฟได้เท่านั้น ! เนื่องจากภาชนะที่ไม่เหมาะสมอาจนำมาสู่อันตรายที่จะเกิดขึ้นได้ เช่น ไมโครเวฟชอตพังหรือทำให้ไฟไหม้ได้ 
  2. ภาชนะที่มีฝาปิดจะช่วยลดการเกิดการกระจายคราบของอาหารขณะที่เครื่องทำงาน 
  3. ตั้งค่าอุณหภูมิให้เหมาะสมกับประเภทของอาหาร ไม่ควรตั้งอุณหภูมิสูงเกินไป เนื่องจากจะทำให้อาหารกระจายออกจากภาชนะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับวิธีการทำความสะอาดไมโครเวฟที่เราได้จัดให้ไป หวังว่ามันจะช่วยเพื่อนๆได้ไม่มากก็น้อย 

สิ่งสำคัญคืออย่าลืมทำความสะอาดบ่อยๆเพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียสะสมและจะนำมาสู่การเจ็บป่วยได้ 

และหลังการทำความสะอาดทุกครั้งควรทิ้งไว้สักพักก่อนใช้งานในครั้งถัดไปเพื่อป้องกันกลิ่นติดอาหารนะ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ แล้วเจอกันบทความถัดไปค่า