เครื่องซักผ้าจัดเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีเรทราคาที่หลากหลาย เมื่อตัวเลือกเยอะจึงต้องคิดให้รอบคอบก่อนเสมอว่า เครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดีที่จะตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด
วันนี้บ้านติฟูลได้นำรีวิวเครื่องซักผ้าทั้งฝาบน ฝาหน้า และเครื่องซักผ้า 2 ถังมาให้คุณได้อ่านและตัดสินใจประกอบกับเทคนิคเล็กๆในการเลือกเครื่องซักผ้าที่เหมาะสม พร้อมเเล้วเราไปอ่านกันได้เลยค่ะ
ยาวไปไม่อ่าน งั้นเราสรุปให้!
รีวิวเครื่องซักผ้า ยี่ห้อไหนดี
1.เครื่องซักผ้าฝาบน LG รุ่น T2515VS2B
จุผ้าได้: 15 กก. ระบบมอเตอร์: Smart Inverter ขนาด: 63.2x67x102 ซม. ประกัน: ตัวเครื่อง 1 ปี, มอเตอร์ 10 ปี |
เครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดีที่สุดในภาพรวมบ้านติฟูลขอยกให้กับ LG ในรุ่น T2515VS2B เพราะว่ามันมีขนาดใหญ่ดี ซักพวกผ้าปูที่นอนหรือผ้านวมเองได้สบายๆไม่ง้อร้าน
บวกกับมอเตอร์ใช้ระบบ Smart Inventer ช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าเครื่องซักผ้าทั่วไปได้มากถึง 36% แปลว่ามันกินไฟน้อยกว่า! เมื่อเกิดไฟตกเครื่องยังกลับมาทำงานต่อเนื่องโดยอัตโนมัติ
แถมยังมีเทคโนโลยี LoDecibel™ ที่รับรองในเรื่องการทำงานที่เงียบ (เงียบสุดที่ 45 dB)และลดแรงสั่นมากขึ้นกว่ารุ่นอื่นๆ นั่นแปลว่าเครื่องซักผ้าตัวนี้จะไม่สร้างมลภาวะทางเสียงในบ้านของคุณแน่นอน
ด้านในเป็นถังสแตนเลสหมุนสวนทางกับจานซักได้ ข้อดีของมันคือช่วยให้เกิดน้ำวนขับแรงถูให้ไปกำจัดคราบบนเสื้อผ้าได้ ประกอบกับมีจุดปล่อยน้ำแบบระบบน้ำตกรอบถึงทำให้น้ำทำงานเร็วและยังทำให้ไปล้างคราบผงซักฟอกได้เร็วมากขึ้น
ที่สำคัญไม่แพ้กันคือจานซักหมุนแบบ Punch+3 ประกอบด้วยจานซักใหญ่ตรงกลางและจานเล็กรอบๆอีก 3 ตัว ส่วนนี้จะไปสร้างคลื่นน้ำในแนวตั้ง ทำให้ผ้ากระจายตัวไม่ติดพันกัน
มีโปรแกรมสำเร็จให้เลือกใช้หลากหลาย ตอบโจทย์ผ้าทุกประเภท แถมยังตั้งค่าเองได้ตามความเหมาะสม มีหน้าจอแสดงเวลาการทำงานที่จะช่วยคุณก่ะเวลาในการทำกิจกรรมอื่นๆระหว่างรอตากผ้าซึ่งบ้านติฟูลคิดว่ามันเป็นฟังก์ชั่นที่ควรมีเลย
LG ยังมีบริการหลังการขายโดยการสแกน Smart Diagnosis™ ผ่านแอปพลิเคชั่น LG Smart ThinQ Smart Diagnosis™ ที่จะวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นและช่วยเหลือเบื้อต้นได้
- ขนาดใหญ่
- ทำงานเสียงเงียบ
- ใช้ระบบ Smart Inventer ประหยัดไฟมากขึ้น
- เครื่องทำงานต่อเนื่องเองหลังจากไฟดับ
- มีโปรแกรมให้ใช้เยอะ
- ใช้แอปพลิเคชั่นในการช่วยตอบปัญหาเบื้อต้นได้
- ไม่มีระบบสตรีมความร้อน ไม่ตอบโจทย์กับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องซักผ้าที่กำจัดเชื้อแบคทีเรียบนผ้า
2.เครื่องซักผ้า 2 ถัง LG รุ่น TT16WAPG
จุผ้าได้: 16 กก. , ถังปั่น 10 กก. ระบบมอเตอร์: สายพาน ขนาด: 96.4x54x104.3 ซม. ประกัน: ตัวเครื่อง 1 ปี, มอเตอร์ 5 ปี |
อยากได้เครื่องซักผ้าขนาดใหญ่แต่เป็นเครื่องซักผ้า 2 ถัง? บ้านติฟูลขอแนะนำ LG รุ่น TT16WAPG ที่หลายๆผู้ใช้งานบอกว่า เครื่องใหญ่แถมพลังสูง ปั่นซักแรง ปั่นหมาดดี ผ้าแห้งไวไม่ง้อเครื่องอบผ้า ในราคาไม่ถึงหมื่น!
ด้วยคุณประโยชน์ที่ได้กล่าวไปข้างต้น บวกกับจานซัก Punch+3 และพิเศษจานซักแบบ Roller Jet อีก 3 ตัว ช่วยซักผ้าสะอาดหมดจดและไม่รุนเเรงต่อเนื้อผ้า
ตั้งเวลาเวลาได้ตามที่มันกำหนด มีโปรแกรมซักผ้าให้เลือก 3 แบบ ตามพลังทำงาน สูง กลาง และต่ำ ถังปั่นแห้งเป็นเทคโนโลยี Wind Jet Dry ช่วยลดความชื้น ผ้าแห้งไว ยับยั้งการเกิดเชื้อราบนผ้า
เอาเป็นว่ารุ่นนี้เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ที่เน้นใช้ซักผ้าและปั่นแห้ง มองหาเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดีที่ใช้งานง่าย เบสิคๆ ไม่ได้เน้นฟังก์ชั่นการทำงานที่หลากหลายและซับซ้อน
- ขนาดใหญ่
- พลังซักสูง
- มีเทคโนโลยีช่วยทำให้ปั่นผ้าได้แห้งดี
- ไม่มีโปรแกรมสำเร็จรูปให้เลือกใช้
- ไม่มีหน้าจอบอกเวลา
3.เครื่องซักผ้าฝาบน Sumsung รุ่น WA13T5260BW/ST
จุผ้าได้: 13 กก. ระบบมอเตอร์: Digital Inverter ขนาด: 61×67.5×110.5 ซม. ประกัน: ตัวเครื่อง 1 ปี, มอเตอร์ 5 ปี |
Sumsung เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ขอแนะนำในเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดี เนื่องจากมันใช้ระบบ Digital Inverter ที่ไปประหยัดพลังงานมากขึ้นกว่าแบบทั่วไปถึง 40% ใครมองหาตัวเลือกประหยัดไฟจะต้องไม่พลาด! ผู้ใช้งานหลายท่านได้รีวิวว่าทำงานเสียงเบาด้วย
ถัง Diamond Drum ให้ดีไซน์ที่มีลัษณะเป็นทรงเพชรแบบไร้รอยเหลี่ยมเป็นคลื่นลอน เป็นตัวช่วยถนุถนอมผ้า ด้านข้างถังมีการระบายน้ำแบบน้ำตก เป็นรูพ่นน้ำขนาดเล็ก ส่วนนี้ก็ส่งผลให้ไปลดการเกี่ยวผ้าในขณะทำงานได้
ประกอบกับจานซักเทคโนโลยี Wobble คือการสร้างกระแสน้ำหลายทิศทางแก้ปัญหาการพันของเสื้อผ้า มีกระแสน้ำวนที่แรงซึ่งมันจะช่วยล้างทำความสะอาดได้หมดจด ไร้คราบผงซักฟอก
มีโปรแกรมการใช้งานที่หลากหลาย ประกอบกับหน้าจอแสดงเวลาการทำงาน ตอบโจทย์การใช้งานสุดๆ ที่สำคัญตัวฟิลเตอร์ช่วยดักจับเศษต่างๆที่มากับเสื้อผ้าได้ดีมากด้วยเทคโนโลยีของมันหมด ไร้กังวลเศษหรือรอยด่างตามเนื้อผ้าหลังจากการซัก
Sumsung ยังได้นำเสนอระบบการตรวจจับแก้ไขปัญหาเบื้องต้นแบบ Smart check ผ่านการใช้แอปพลิเคชั่น ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้อีกระดับหนึ่ง
- ขนาดใหญ่
- ระบบ Inventer ประหยัดพลังงาน
- ถังปั่นมีคุณสมบัติช่วยถนอมผ้า
- ฟังก์ชั่นการทำงานเยอะ
- ทำงานเสียงเบา
- ไม่มีระบบสตรีมความร้อน ไม่ตอบโจทย์กับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องซักผ้าที่กำจัดเชื้อแบคทีเรียบนผ้า
4.เครื่องซักผ้า 2 ถัง Toshiba รุ่น VH-H85MT
จุผ้าได้: 7.5 กก. ,ถังปั่น 4.6 กก. ระบบมอเตอร์: ไม่ระบุ ขนาด: 76.1×44.8×88.5 ซม. ประกัน: ตัวเครื่อง 2 ปี, มอเตอร์ 5 ปี |
รีวิวเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดีจาก Toshiba ในรุ่น VH-H85MT เป็นเครื่องซักผ้า 2 ถังที่คุณภาพไว้วางใจได้ ตัวถังทำจากโพลิเมอต์ที่มีคุณภาพดี หนาแข็งแรง ช่วยป้องกันการเกิดคราบเปื้อน และยังหมดกังวลของการเกิดสนิม
ที่โดดเด่นของรุ่นนี้คือเทคโนโลยีจานซักแบบ High Blades Pulsator มี 8 ครีป ทรงสูง ขนาดใหญ่และทรงพลังช่วยซักผ้าได้อย่างสะอาดหมดจด พร้อมกับโปรแกรมปั่นซัก 2 แบบ ได้แก่แบบปกติและแรง ใช้งานได้ทั่วไปเหมือนเครื่องซักผ้า 2 ถังรุ่นอื่นๆ
- ประหยัดน้ำ
- ตัวเครื่องงช่วยลดการเกิดสนิม
- ใบพัดปั่นทรงสูงช่วยปั่นผ้าไ้มีประสิทธิภาพ
- ไม่มีโปรแกรมสำเร็จรูปให้เลือกใช้
- ไม่มีหน้าจอบอกเวลา
5.เครื่องซักผ้าฝาบน Toshiba รุ่น AW-J800AT(SG)
จุผ้าได้: 7 กก. ระบบมอเตอร์: สายพาน ขนาด: 51.5×52.5×92 ซม. ประกัน: ตัวเครื่อง 2 ปี, มอเตอร์ 10 ปี |
รีวิวเครื่องซักผ้าฝาบนจากโทชิบารุ่น AW-J800AT(SG) เป็นรุ่นที่แนะนำสำหรับใช้ซักผ้าในชีวิตประจำวันทั่วไป ไม่เน้นซักจำนวนมาก ไม่เน้นซักผ้านวม เหมาะกับบ้านไหนที่มีครอบครัวขนาดเล็ก
เป็นเครื่องซักผ้าที่ใช้ระบบสายพานธรรมดา ทำให้ไม่ตอบโจทย์ผู้ที่กำลังมองหาตัวเลือกในการประหยัดไฟ แต่ด้วยประสิทธิภาพการทำงานของมันทำให้รู้สึกว่ามันค่อนข้างโอเคเลย ที่สำคัญคือราคาไม่ถึงหมื่น นับได้ว่าเป็นเครื่องซักผ้าที่คุ้มค่ากับราคาดี
คุณสมบัติที่โดดเด่นของเจ้าตัวนี้คือจานซักช่วยถนอมผ้ามากขึ้น พร้อมกับเทคโนโลยี THE GREATWAVES™ ที่ปล่อยน้ำทั้ง 3 ทิศทาง พร้อมระบบ i-cleaning ซึ่งเป็นตัวทำความสะอาดถังอัตโนมัติระหว่างการซัก มันช่วยลดคราบสกปรกสะสมเมื่อใช้ไปนานๆ
- เครื่องซักผ้าขนาดพอดีๆ
- ราคาไม่ถึงหมื่น
- จานซักช่วยถนอมผ้า
- ถังซักทำความสะอาดอัตโนมัติขณะใช้งาน
- เครื่องซักผ้ารุ่นนี้ไม่ใช้ระบบมอเตอร์ inventer ซึ่งมีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงาน
6.เครื่องซักผ้าฝาบน Hair รุ่น HWM140-1826TE
จุผ้าได้: 14 กก. ระบบมอเตอร์: Normal Motor ขนาด: 61.3x63x103.8 ซม. ประกัน: ตัวเครื่อง 3 ปี, มอเตอร์ 12 ปี |
เครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ตอบโจทย์บ้านไหนมีสมาชิกเยอะๆ ควรเน้นเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดีที่สามารถรองรับได้มาก Hair รุ่น HWM140-1826TE ตัวนี้สามารถจุได้มากถึง 14 กก. ซึ่งมันใจได้ว่ามันรองรับการซักผ้าปูที่นอนและผ้าห่มได้
ตัวถังเป็นสแตนเลสสตีลมีลักษณะเป็น Pillow Tub ช่วยลดการเสียดสีและเกิดการเกี่ยวกันระหว่างถังกับผ้าไม่ไปทำลายชุดตัวโปรดของคุณ เมทื่อไฟตกเครื่องก็ทำงานต่อเนื่องแถมหลายรีวิวบอกว่าเครื่องทำงานเสียงเงียบมากตรงข้ามกับขนาด
- ขนาดใหญ่ ราคาไม่แพง
- มีระบบซักต่อเนื่อง
- เครื่องทำงานเงียบ
- เครื่องซักผ้ารุ่นนี้ไม่ใช้ระบบมอเตอร์ inventer ซึ่งมีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงาน
7.เครื่องซักผ้า 2 ถัง TCL รุ่น F209TTW
จุผ้าได้: 9 กก. , ถังปั่น 7 กก. ระบบมอเตอร์: ไม่ระบุ ขนาด: 85.5x40x96.8 ซม. ประกัน: ตัวเครื่อง 3 ปี , มอเตอร์ 12 ปี |
เครื่องซักผ้า 2 ถังจาก TCL ในรุ่น F209TTW ที่สามารถซักผ้าและปั่นหมาดได้พร้อมๆกัน ราคาไม่ถึง 5,000 ถังปั่นซักแรงทรงพลัง เพราะมีจานซักสร้างกระแสน้ำวนช่วยซักผ้าและล้างคราบฝงซักฟอกได้ดีมากขึ้น ตัวถังปั่นหมาดช่วยล้างผงซักอีก 1ขั้นตอนและมีระบบ Air dry ช่วยทำให้ผ้าแห้งไวมากขึ้น
ใช้งานง่ายไม่เน้นฟังก์ชั่นมากมายเหมือนเครื่องซักผ้าฝาบนและเครื่องซักผ้าฝาหน้าตอบโจทย์ทุกวัยและเป็นเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดีที่หลายรีวิวยอมรับถึงความคุ้มค่าที่เกินคาดกับราคา
- จานซักสร้างกระแสน้ำวน
- ราคาไม่แพง
- มีระบบ Airdry ช่วยปั่นผ้าแห้ง
- ไม่มีโปรแกรมสำเร็จรูปให้เลือกใช้
- ไม่มีหน้าจอบอกเวลา
8.เครื่องซักผ้าฝาบน TCL รุ่น F713TLW
จุผ้าได้: 8 กก. ระบบมอเตอร์: ไม่ระบุ ขนาด: 52x53x90 ซม. ประกัน: ตัวเครื่อง 3 ปี , มอเตอร์ 12 ปี |
เครื่องซักผ้าที่ตอบโจทย์คนไม่ค่อยมีเวลาเพราะตั้งเวลาซักล่วงหน้าได้มากถึง 24 ชม. บวกกับระบบสุดอัจฉริยะที่ใช้เซ็นเซอร์ตรวจสอบน้ำหนักของผ้าที่ใส่เข้าไป จากนั้นเครื่องก็จะจัดปริมาณที่เหมาะสมกับขนาด ช่วยประหยัดน้ำได้อีกขั้นนึงแถมมีระบบล๊อคป้องกันฝาเปิดด้วย หากบ้านไหนมีเด็กเราแนะนำเลยค่ะ
ด้านในถังซักเป็นรูปทรงรังผึ้ง ที่จะช่วยทำให้อากาศภายในถึงซักเกิดการไหลเวียนได้สะดวก ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำความสะอาดเสื้อผ้าได้อย่างล้ำลึกหมดจด บ้านติฟูลคิดว่าเจ้าตัวนี้เป็นเครื่องซักผ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดีเลย
- ตั้งเวลาล่วงหน้าได้
- เครื่องซักผ้ามีระบบอัจฉริยะทำงานตามความเหมาะสมกับปริมาณผ้า
- มีระบบล๊อคป้องกันการเปิดฝาขณะที่เครื่องกำลงัทำงาน
- เครื่องซักผ้ารุ่นนี้ไม่ใช้ระบบมอเตอร์ inventer ซึ่งมีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงาน
9.เครื่องซักผ้าฝาหน้า TCL รุ่น P610FLW
จุผ้าได้: 10 กก. ระบบมอเตอร์: Smart Inverter ขนาด: 59.5×62.5×85 ซม. ประกัน: ตัวเครื่อง 3 ปี , มอเตอร์ 12 ปี |
หากคุณกำลังมองหาเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดีตอบโจทย์ในเรื่องของการประหยัดพลังงานมากที่สุด คงไม่พ้นเครื่องซักผ้าฝาหน้าเลย และ TCL ในรุ่น P610FLW นี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้เลยค่ะ
เนื่องจากมันใช้ระบบ Smart Inventer ที่ประหยัดพลังงาน ทำงานงานเสียงเบา เหมาะกับการใช้ตามห้องพักอย่างคอนโดมิเนียมมากๆ เครื่องซักผ้าฝาหน้ายังมีอุณหภูมิความร้อนในการซักผ้า ส่วนนี้ช่วยฆ่าเชื้อโรคที่ติดมากับผ้าและตัวถังซักด้วย
ตัวถังเป็นทรงคล้ายรังผึ้งช่วยทำความสะอาดผ้าได้อย่างลำลึกหมดจด ขจัดคราบสกปรกได้ดี คุณสามารถล้างถังซักได้ง่ายๆด้วยโหมดการทำความสะอาดถัง ไม่ต้องใช้สารเคมีใดๆป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น เครื่องซักผ้ายังทำงานต่อเนื่องหลังจากเกิดไฟดับ
- ประหยัดพลังงาน
- ทำงานเสียงเบา
- ประหยัดพื้นที่
- ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
- ใช้ระบบ Inventer
10.เครื่องซักผ้าฝาหน้า Haier รุ่น HW100-BP10829
จุผ้าได้: 10 กก. ระบบมอเตอร์: BLDC Inverter Motor ขนาด: 59.5x65x84.5 ประกัน: ตัวเครื่อง 3 ปี, มอเตอร์ 12 ปี |
รีวิวเครื่องซักผ้าฝาหน้า Haier รุ่น HW100-BP10829 ที่ใช้ระบบอินเวนเตอร์ ทำงานเสียบเบาไม่สั่นแรง
พร้อมการคำนวณปริมาณน้ำยาและผงซักให้เหมาะสมกับผ้าที่ใส่เข้าไปโดยอัตโนมัติ
ตัวเครื่องปล่อยน้ำแบบคู่ ช่วยทำความสะอาดผ้าได้อย่างหมดจดรวมไปถึงช่วยล้างทำความขอบยางฝาประตูลดการเกิดคราบเชื้อราสะสม มีโปรแกมซักแบบ Hygienic ทำความสะอาดด้วยอุณหภมิสูงสุด 90°c และยังช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้สูงสุดถึง 99.99%
- ประหยัดพลังงาน
- ทำงานเสียงเบา
- ประหยัดพื้นที่
- ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
- ใช้ระบบ Inventer
- มีการคำนวนความเหมาะสมกับขนาดของผ้าโดยอัตโนมัติ
11.เครื่องซักผ้าฝาหน้า Toshiba รุ่น TW-BH85S2T(WK)
จุผ้าได้: 7.5 กก. ระบบมอเตอร์: BLDC Inverter ขนาด: 59.5x49x85 ซม. ประกัน: ตัวเครื่อง 2 ปี, มอเตอร์ 10 ปี |
หากมองหาเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่มีขนาดเล็กลงมา แนะนำ Toshiba รุ่น TW-BH85S2T(WK) จุดเด่นของมันคือช่องใส่ผ้าขนาดใหญ่ ง่ายต่อการใส่หรือเอาเสื้อผ้าออกจากถัง ตัวเครื่องใช้ระบบ Inventer ที่เครื่องซักผ้าฝาหน้าส่วนใหญ่มักจะใช้กันในปัจจุบัน ทำให้ประหยัดไฟ แถมทำงานเสียงเงียบด้วย
ข้างในมีเทคโนโลยีละลายผงซักฟอก ทำงานโดยการฉีดน้ำในช่องจ่ายผงซักประกอบกับใช้อุณหภูมิน้ำสูงสุดถึง 90°c มั่นใจว่าสารซักฟอกจะหมดไปหลังจากการใช้งานพร้อมกับช่วยป้องกันการเกิดเชื้อตามขอบยางด้วย
- ประหยัดพลังงาน
- ทำงานเสียงเบา
- ประหยัดพื้นที่
- ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
- ใช้ระบบ Inventer
เครื่องซักผ้าฝาหน้า VS เครื่องซักผ้าฝาบน VS เครื่องซักผ้า 2 ถัง แบบไหนดีกว่ากัน
เครื่องซักผ้าแบบไหนดีที่ตอบโจทย์มากที่สุด ส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการ ความชอบ ความสะดวกของแต่ละบุคคล โดยเครื่องซักผ้าแต่ละแบบนั้นมีทั้งจุดแข็งจุดอ่อน
ข้างล่างนี้เป็นประเภทเครื่องซักผ้าที่มีขายและมีคนใช้จำนวนมาก ลองอ่านดูนะคะ ว่าแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณมากที่สุด
เครื่องซักผ้าฝาหน้า
เครื่องซักผ้าฝาหน้า ค่อนข้างเป็นที่นิยมไม่แพ้กันกับเครื่องซักผ้าฝาบน ที่โดดเด่นคือมันสามารถซักผ้าได้สะอาดและยังทะนุถนอมเนื้อผ้าได้ดีกว่าแบบฝาบน นั่นก็เพราะเพราะว่ากลไกการทำงานของมัน
เมื่อเสื้อผ้าถูกปั่นแบบกลับไปมาทำให้คราบฝังหลุดออก ประกอบกับปัจจัยอื่นๆอย่างเช่น สารเคมีในการซักผ้า น้ำ และอุณหภูมิที่ถูกควบคุมในระดับที่เหมาะสม
นอกจากนั้นแล้วมันยังเป็นเครื่องซักผ้าที่ใช้น้ำน้อยและประหยัดพลังงาน จึงตอบโจทย์ผู้ที่กำลังมองหาเครื่องซักผ้า ยี่ห้อไหนดีที่ประหยัดพลังงานสิ่งแวดล้อมได้ดี
หากนี่คือสิ่งที่คุณกำลังตามหาอยู่ เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณมากที่สุดแล้วค่ะ
แต่ช้าก่อน! เนื่องจากเครื่องซักผ้าฝาหน้า มีประตูอยู่ด้านหน้าตัวเครื่องทำให้ต้องก้มใช้งาน ประกอบกับปัญหาเชื้อราติดตามขอบยางเมื่อใช้งานไปนานๆ จึงต้องหมั่นทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ
ส่วนใหญ่จะมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเครื่องซักผ้าแบบอื่นๆ บางรุ่นก็สั่นแรงซะจนตกใจ รอบซักนานพอสมควร
ที่สำคัญไม่สามารถใส่ผ้าเพิ่มได้หากลืมเพราะประตูจะล๊อคโดยอัตโนมัติขณะที่เครื่องทำงาน ทำให้หลายคนต้องถอยกลับไปใช้เครื่องซักผ้าฝาบนที่คุ้นเคย
สรุป:
- ซักผ้าได้สะอาดที่สุด
- ทะนุถนอมผ้ามากกว่าแบบอื่นๆ
- ประหยัดน้ำและพลังงาน
- ต้องก้มในการใช้งาน
- ราคาสูง
- สั่นแรง
- ต้องหมั่นทำความสะอาด เพื่อป้องกันเชื้อรา
- ใช้เวลาซักนาน
- ไม่สามารถเปิดฝาถังเพิ่มผ้าในการซักได้ในขณะที่เครื่องทำงาน
เครื่องซักผ้าฝาบน
เครื่องซักผ้าฝาบนเป็นตัวเลือกที่คนนิยมมากที่สุดเพราะมันตอบโจทย์ในเรื่องความสะดวกสบายมากที่สุด โดยฝาประตูอยู่ด้านบนไม่ต้องก้มเยอะเหมือนเครื่องซักผ้าฝาหน้า
แถมรอบปั่นเร็วกว่าแบบฝาหน้า ช่วยประหยัดเวลาได้ดีสุดๆ หากต้องการเพิ่มเสื้อผ้าในขณะที่เครื่องทำงานอยู่ก็ทำได้เลย
จัดได้ว่าเป็นเครื่องซักผ้าที่ตอบโจทย์คนที่เร่งรีบ มีภารกิจเยอะ ไม่ต้องการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าบ่อยๆหมดห่วงเรื่องเชื้อราและกลิ่นอับชื้น (แต่ก็ควรทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละครั้งนะ)
ตามท้องตลาดปัจจุบันก็ได้มีเครื่องซักผ้าฝาบนที่ช่วยประหยัดพลังงานผุดขึ้นมาเยอะมาก แถมมีราคาไม่สูงอีก ส่งผลให้โดนใจพ่อบ้านแม่บ้านไปเต็มๆ
อย่างไรก็ตามมันก็คงไม่ได้ประหยัดพลังงานได้ดีเท่ากับเครื่องซักผ้าฝาหน้าสักเท่าไหร่ เพราะมันยังต้องใช้น้ำจำนวนมากในการทำงาน รวมไปถึงระบบปั่นแบบบิดที่ไม่ถนอมเนื้อผ้า ทำให้ไม่เหมาะกับคนที่เน้นการดูแลรักษาเสื้อผ้าตัวโปรด
สรุป:
- อำนวยความสะดวกสบายมากที่สุด
- รอบปั่นเร็ว ช่วยประหยัดเวลา
- เปิดฝาถังเพิ่มผ้าได้ในขณะที่เครื่องทำงาน
- ไม่ต้องทำความสะอาดเครื่องซักผ้าบ่อย
- มีหลายเกรด หลายราคา
- ใช้น้ำเยอะ
- ไม่ถนอมผ้า
เครื่องซักผ้า 2 ถัง
เครื่องซักผ้า 2 ถังคือเครื่องซักผ้าที่มีระบบปั่นซักและปั่นแห้งแยกออกคนละถัง ซึ่งจะต้องย้ายผ้าซักเปียกไปยังถังซักแห้งด้วยมือของเราเอง ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าและฝาบนไฮเทค
เอาเข้าจริงๆเครื่องซักผ้า 2 ถังนี้เป็นตัวเลือกที่ประหยัดพลังงานได้ดีที่สุดเพราะใช้น้ำน้อยเช่นเดียวกันกับเครื่องซักผ้าฝาหน้า
แต่จะต้องอาศัยกระบวนการใช้งานที่เยอะกว่าแบบอื่นๆสักหน่อย แต่ก็สะอาดและแห้งไวไม่แพ้เครื่องซักผ้าแพงๆเลยค่ะ สรุปสั้นๆเครื่องซักผ้า 2 ถังไม่ใช่เครื่องซักผ้าอัตโนมัติ
สรุป:
- ถังปั่นเปียกแลพปั่นแห้งแยกออกจากกัน
- ราคาไม่แพง
- ใช้น้ำน้อย
- ผ้าแห้งไว
- ต้องย้ายผ้าเอง
- กระบวนการใช้งานค่อนข้างเยอะกว่าแบบอื่นๆ
ซื้อเครื่องซักผ้าทั้งทีควรเลือกจากอะไร?
ความจุที่ต้องการ
ปกติแล้วคุณซักผ้าต่อครั้งจำนวนมากหรือน้อยเท่าไหน?
ต้องการใช้ซักผ้านวมผืนใหญ่ด้วยหรือเปล่า?
เป็นคำถามที่จะช่วยให้คุณได้ตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องซักผ้าขนาดที่รองรับกับการใช้งานจริงมากที่สุด
หลังจากที่คุณรู้แล้วว่าอยากได้เครื่องซักผ้าแบบไหน
แต่ถ้าต้องการซักผ้านวมผืนใหญ่..
บ้านติฟูลอยากแนะนำให้ซื้อเครื่องซักผ้าแบบฝาบน ที่รองรับอย่างน้อย 9 กก. ขึ้นไป ยิ่งเยอะก็จะใส่ผ้านวมที่ขนาดใหญ่ได้มากกว่า ดังนั้นจึงอยากให้คุณพิจรณาส่วนนี้ด้วย
โปรแกรมการตั้งค่าเครื่องซักผ้า
การตั้งค่าโปรแกรมการทำงานของเครื่องซักผ้าจะช่วยทำให้ซักผ้าได้สะอาดและรักษาเนื้อผ้าให้ได้ดีมากที่สุด ดังนั้นอย่าลืมเช็คดูว่าเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดีหรือรุ่นที่กำลังดูๆอยู่นั้นมีโปรแกรมการทำงานตรงกับความต้องการของคุณหรือไม่
ในเครื่องซักผ้าปัจจุบันก็ได้ผลิตออกมาให้โปรแกรมมีตัวเลือกที่ครอบคลุมน้ำและอุณหภูมิที่เหมาะสมกับเนื้อผ้าที่หลากหลายประเภท บางรุ่นยังสามารถตั้งค่าได้เองด้วย
ฟังก์ชั่นการทำงานอื่นๆ
แน่นอนว่าในยุคปัจจุบันใครๆก็ใช้ Smart Home ของใช้ในบ้านทั้งหมดสามารถสสั่งงานผ่านแอปพลิเคชั่นได้ ทั้งตั้งเวลา ตั้งโปรแกรมต่างๆ เครื่องซักผ้าก็ทำได้เช่นกัน หากคุณชื่นชอบเทคโนโลยีที่ล้ำๆแบบนี้มันก็น่าสนใจไม่น้อยเลย
สรุปส่งท้าย
ซื้อเครื่องซักผ้าแบบไหนดี อยู่ที่ความถนัด ความชอบ และความต้องการของคุณเลย
แบบฝาหน้าเหมาะกับคนที่เน้นซักผ้าสะอาด ถนอมผ้า แถมประหยัดน้ำ ฝาบนเหมาะกับคนที่ชอบอะไรง่ายๆคล่องตัว 2 ถังเหมาะกับคนที่ต้องการประหยัดและต้องการดูแลผ้าอย่างระมัดระวัง
ที่สำคัญสุดคือการเช็คว่าต้องโหลดผ้าเยอะไหม?ใช้ซักผ้านวมหรือเปล่าเพื่อที่จะได้เลือกซื้อเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดี ที่มีขนาดตามความเหมาะสมมากที่สุด
จากนั้นอาจจะดูว่าตัวเครื่องซักผ้ามีโปรแกรมที่ต้องการ หรือเทคโนโลยี Smart Home ใหม่ๆที่สนใจอยู่หรือไม่?
และแน่นอนว่าเพื่อไม่ให้เสียเวลามากจนเกินไป บ้านติฟูลก็ได้จัดรีวิวเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดีทั้งหมดถึง 11 ตัวไปครบหมดแล้ว หากคุณสนใจเครื่องอบผ้าแล้วก็มีมาให้อ่านเช่นกัน