บทความวันนี้เราขอเสนอ 10 อันดับ ตู้เย็นยี่ห้อไหนดีที่สุด ที่คุ้มค่า ถึก ทน มีฟังก์ชั่นการทำงานที่ตรงกับความต้องการ เพื่อใช้งานในบ้านกัน พร้อมเทคนิคในการซื้อที่จะช่วยให้คุณได้เลือกซื้อ ตู้เย็นยี่ห้อไหนดีที่สุด ของปี 2023 กัน ! ตามไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ
ภาพรวมตู้เย็นยี่ห้อไหนดีที่สุด
![]() | ตู้เย็น 1 ประตูที่ดีที่สุด: Toshiba รุ่น GR-C149SH ซื้อได้ที่ Lazada , Shopee |
![]() | ตู้เย็น 2 ประตูที่ดีที่สุด: Samsung รุ่น RT22FGRADSA/ST ซื้อได้ที่ Lazada , Shopee |
![]() | ตู้เย็นสำหรับครอบครัวใหญ่ที่ดีที่สุด: Hisense รุ่น RB546N4AF1 ซื้อได้ที่ Lazada , Shopee |
10 อันดับ ตู้เย็นยี่ห้อไหนดีที่สุด
1.Samsung รุ่น RT22FGRADSA/ST

ระบบทำความเย็น: Digital Inverter Compressor | ขนาด: 55.5×55.5×154.5 เซนติเมตร |
คามจุ: 238.8 ลิตร หรือ 8.4 คิว | น้ำหนัก: 48 กิโลกรัม |
ตู้เย็น 2 ประตูสุดมินิมอล มีดีไซน์เรียบๆ แต่ให้ความพรีเมียม ช่วยแต่งให้ครัวของคุณสวยงามมากขึ้น แถมยังมีฟังก์ชั่นการทำงานที่ครบครัน มีไฟ LED ให้แสงสว่างในการใช้งาน
ตู้เย็นยี่ห้อไหนดีที่สุด ต้องขอยกนิ้วให้กับ Sumsung เลยค่ะ ซึ่งหลายๆคนรู้จักกันอย่างดีกับครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน นอกจากตู้เย็นแล้ว ยังมี ทีวี ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า หรือเครื่องดูดฝุ่น ให้ได้เลือกซื้ออีกมากมาย
ระบบการทำงาน: สิ่งที่เลิฟสุดๆเลยคือระบบการทำความเย็นแบบดิจิตัล Inventor กระจายความเย็นทั่วทุกอนู เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้มั่นใจว่ามีประสิทธิภาพการใช้งานคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จะต้องจ่าย
พร้อมทั้งมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ทำให้อุ่นใจค่าไฟ ใช้น้ำยาทำความเย็น R-600a ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อสภาวะแวดล้อม
ช่องแช่แข็ง: ช่องแช่แข็งตั้งแยกออกจากส่วนตู้เย็นหลัก(ประตูด้านบน) มีตัวทำน้ำแข็งแบบบิด ระบบละลายน้ำแข็งที่ช่วยลดการจับตัวของก้อนน้ำแข็งอย่างตู้เย็นแบบเก่า
ซึ่งเป็นเรื่องทีดีแถมยังเพิ่มพื้นที่ในการแช่อาหารแช่แข็ง แต่ถ้าบ้านไหนชอบแช่อาหารแช่แข็งแนะนำตู้แช่แข็งดีกว่านะคะเพื่อลดการทำงานตู้เย็นไม่ให้ทำงานหนักเกินไป
พื้นที่จัดเก็บ: ภายในตู้เย็นหลัก(ส่วนของด้านล่าง)มีพื้นที่สำหรับวางของขนาดกว้าง หลักๆมีชั้นวางแบบสไลด์ 2 ชั้นทำจากแก้วคุณภาพดี ช่องเก็บผักผลไม้สดแบบลิ้นชัก ที่ถูกออกแบบมาให้รักษาผักผลไม้สดได้ยาวนาน ข้างประตูมีช่องใส่ไข่และช่องใส่ขวดแบบลึก
กรณีไฟดับ: ในส่วนของช่องแช่แข็ง มี Cool pack ที่จะช่วยรักษาอาหารแช่แข็งได้นานถึง 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว
บ้านไหนที่มองหา ตู้เย็นแบบ 2 ประตูโดยมีช่องแช่แข็งด้านบน ขนาดพอดีครัว รุ่นนี้เป็นรุ่นที่น่าใช้เลยทีเดียวค่ะ นอกจากคุณสมบัติหลายๆอย่างที่ได้กล่าวไปแลวนั้น ตู้เย็นรุ่นนี้ยังช่วยกำจัดกลิ่นอับสะสมจากอาหารด้วย
ระยะเวลาการรับประกัน: คอมเพรสเซอร์ 10 ปี ตัวเครื่อง 5 ปี
สิ่งที่ชอบ:
- ใช้ระบบทำความเย็น Inventor
- มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- ใช้น้ำยาทำความเย็น R-600a ลดภาวะโลกร้อน
- ช่องแช่แข็งแยกออกต่างหากจากตัวแช่เย็น
- มีพื้นที่ใส่ของเยอะและช่องด้านข้างเป็นแบบลึก
- ถ้าไฟดับ มี Cool pack ที่ช่วยรักษาอาหารแช่แข็ง
- มีระบบละลายน้ำแข็ง No Frost
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ตัวทำน้ำแข็งไม่มีความพิเศษ เป็นแบบบิดธรรมดา
2.Toshiba รุ่น GR-C149SH

ระบบทำความเย็น: Super Direct Cool | ขนาด: 55.4×57.1×104.4 เซนติเมตร |
คามจุ: 145.9 ลิตร หรือ 5.2 คิว | น้ำหนัก: 25 กิโลกรัม |
ตู้เย็นยี่ห้อไหนดีที่สุดสำหรับ 1 ประตู ต้องให้รุ่นนี้เลยค่ะ ตัวบอดี้มีขนาดเล็กที่เหมาะกับบ้านที่ต้องการประหยัดพื้นที่ สามารถตอบโจทย์การทำงานได้ทั่วไป และที่สำคัญช่วยประหยัดไฟเพราะตัวนี้เขามีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ด้วยเช่นกันค่ะ
ระบบการทำงาน: มีตัวทำความเย็น แบบ Super Direct Cool ที่ให้ความเย็นผ่านช่องส่งลมเย็นจากช่องแช่แข็งและใช้น้ำยาทำความเย็น R-600a ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อโลกเช่นกัน
ช่องแช่แข็ง: ช่องแช่แข็งไม่ได้ใหญ่มากเนื่องด้วยตัวตู้เย็นมีขนาดเล็กและไม่มีตัวทำน้ำแข็งให้ แต่มีระบบละลายน้ำแข็งแบบกึ่งอัตโนมัติให้ ซึ่งปกติแบบ 1 ประตูมักจะไม่มีระบบละลายน้ำแข็งค่ะ ถือว่ายังเป็นจุดที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก
พื้นที่จัดเก็บ: มีชั้นวางใสทำจากพลาสติก คุณภาพดี ประมาณ 1 ชั้น พร้อมลิ้นชักสำหรักเก็บผักผลไม้สดแต่ไม่ได้มีเทคโนโลยีพิเศษเพิ่มเติมในการรักษาคุณภาพความสดใหม่ เมื่อเทียบกับตู้เย็น 2 ประตู
ด้านข้างมี 3 ชั้น มาพร้อมกับถาดสำหรับวางไข่ โดยรวมแล้วถือว่ามีพื้นที่เพียงพอสำหรับครอบครัวขนาดเล็กได้ดี
ระยะเวลาการรับประกัน: คอมเพรสเซอร์ 10 ปี ตัวเครื่อง 1 ปี
สิ่งที่ชอบ:
- ขนาดเล็กกระทัดรัด
- มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- ใช้น้ำยาทำความเย็น R-600a ลดภาวะโลกร้อน
- มีระบบละลายน้ำแข็งแบบกึ่งอัตโนมัติ
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ไม่มีตัวทำน้ำแข็ง
- ตู้เย็นค่อนข้างเตี้ย
3.Haier รุ่น HRF-THM20N

ระบบทำความเย็น: Dynamic Inventer | ขนาด: 55x60x143 เซนติเมตร |
คามจุ: 197 ลิตร หรือ 7.3 คิว | น้ำหนัก: 49 กิโลกรัม |
ตู้เย็นขนาด 7.3 คิว ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ จากยี่ห้อ Haier ที่แนะนำสำหรับครอบครัวเล็ก นอกจากจะมี 2 ประตูแยกช่องแช่แข็งและตู้เเช่เย็นออกจากกันแล้ว เราสามารถเปลี่ยนการใช้งานของประตูจากด้านซ้ายหรือด้านขวาและยังปรับระดับความสูงของขาตั้งตู้เย็นได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการ
และรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับตัวทำน้ำแข็งอัตโนมัติ หากสิ่งนี้ตอบโจทย์ในการใช้งานของคุณ ไม่ควรพลาดเลยจริงๆค่ะ
ระบบการทำงาน: ตัวเครื่องใช้ตัวทำความเย็นแบบ Inventer พร้อมกระจายความเย็นทั่วทิศทาง ภายในมีหลอดไฟ LED ให้ความสว่างในการใช้งาน(เฉพาะตู้แช่เย็น) แถมประหยัดไฟ ที่สำคัญเขายังมีระบบกำจัดกลิ่นอับที่สะสมภายในตู้เย็นด้วย
ช่องแช่แข็ง: ส่วนประตูด้านบนของตู้เย็นจะเป็นช่องแช่แข็ง ด้านในสามารถจุได้ 55 ลิตร (จากความจุของตู้เย็นทั้งหมด 197 ลิตร) มีระบบละลายน้ำแข็งหรือ No Frost
และที่พิเศษเลยคือ ตัวทำน้ำแข็งอัตโนมัติ ที่จะช่วยตอบโจทย์มากกว่าการใช้งานแบบหมุนบิด แถมใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงก็ได้น้ำแข็งแล้วอย่างง่ายๆ
พื้นที่จัดเก็บ: พื้นที่ชั้นวางภายใทำจากกระจกนิรภัย หนา ทนทาน รองรับน้ำหนักได้ถึง 120 กิโลกรัม ช่องเก็บผักผลไม้สามารถปรับระดับความชื้นภายในได้
ระยะเวลาการรับประกัน: คอมเพรสเซอร์ 10 ปี ตัวเครื่อง 5 ปี
สิ่งที่ชอบ:
- ใช้ระบบทำความเย็น Inventor
- มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- ช่องแช่แข็งแยกออกต่างหากจากตัวแช่เย็น
- ชั้นวางทำจากกระจกนิรภัย ทนทาน
- สามารถสลับด้านประตูได้
- มีระบบทำน้ำแข็งอัตโนมัติ
- มีระบบกำจัดกลิ่นอับ
- มีระบบละลายน้ำแข็ง No Frost
- สามารถปรับระดับความชื้นของช่องแช่ผักสดได้
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ไม่มีหลอดไฟในช่องแช่แข็ง
4.LG รุ่น GN-B422SQCL

ระบบทำความเย็น: Smart Inverter | ขนาด: 70x70x168 เซนติเมตร |
คามจุ: 402.7 ลิตร หรือ 14.2 คิว | น้ำหนัก: 78 กิโลกรัม |
ตู้เย็น 2 ประตู จากยี่ห้อ LG ที่แนะนำ เพราะสามารถจุได้ถึง 14.2 คิว หากคุณกำลังมองหาตู้เย็นขนาดใหญ่สามารถรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี
ตู้เย็นจาก LG รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบ Smart Diagnosis™ สุดอัจฉริยะ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงการบริการของแบรนด์ได้อย่างรวดเร็ว
ระบบการทำงาน: มีระบบทำความเย็นแบบ Smart Inventer จาก LG ซึ่งปรับระดับความเย็นตามปริมาณอาหารและเครื่องดื่มที่ถูกแช่ไว้ ทำให้ประหยัดพลังงานได้ถึง 36 % ภายในเกิดการกระจายความเย็นอย่างทั่วถึง ทำให้อาหารหรือเครื่องดื่มเย็นเร็วทันใจ
ช่องแช่แข็ง: ช่องแช่แช็งจะตั้งอยู่ด้านบนของตู้แช่เย็นหลัก มีระบบละลายน้ำแข็งเพื่อป้องกันการจับตัวของก้อนน้ำแข็งที่อาจเกิดขึ้นในช่องฟิต
พื้นที่จัดเก็บ: พื้นที่ด้านในค่อนข้างกว้าง สามารถใส่ของได้เยอะ ตัววัสดุแข็งแรง ทนทาน เพราะทำมาจากกระจกนิรภัย แต่น่าเสียดายที่ไม่มีช่องสำหรับใส่ไข่มาให้
ระยะเวลาการรับประกัน: คอมเพรสเซอร์ 10 ปี ตัวเครื่อง 1 ปี
สิ่งที่ชอบ:
- ใช้ระบบทำความเย็น Inventor
- มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- ช่องแช่แข็งแยกออกต่างหากจากตัวแช่เย็น
- ชั้นวางทำจากกระจกนิรภัย ทนทาน
- มีระบบละลายน้ำแข็ง No Frost
- ตู้เย็นจะปรับระดับความเย็นตามปริมาณอาหารและเครื่องดื่ม ทำให้ประหยัดไฟ
- มี Smart Diagnosis™ ที่จะช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับตัวเครื่องได้รวดเร็ว
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ไม่มีตัวทำน้ำแข็ง
- ไม่มีช่องใส่ไข่
5.Haier รุ่น HR-CEQ18X

ระบบทำความเย็น: Direct Cool | ขนาด: 58.2×62.3×123 เซนติเมตร |
คามจุ: 177 ลิตร หรือ 6.3 คิว | น้ำหนัก: 32.5 กิโลกรัม |
ตู้เย็นจาก Haier ที่แนะนำ แต่รุ่นนี้จะมี 1 ประตูขนาดเล็ก กระทัดรัด และยังถูกออกแบบมาให้ด้านบนตู้เย็นให้ทนต่อความร้อน สามารถวางเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กได้ อย่างเช่น ไมโครเวฟ
เหมาะกับผู้ใช้งาน 1-2 คน มีพื้นที่จำกัด และหากคุณกำลังมองหาตู้เย็นที่มีหลายสีให้เลือกซื้อ ไม่ควรพลาดรุ่นนี้เลยค่ะ
ระบบการทำงาน: มีตัวทำความเย็น แบบ Direct Cool พร้อมแผงความเย็นทั้ง 4 ด้านที่จะช่วยทำให้เครื่องดื่มเย็นตลอด และใช้น้ำยาทำความเย็น R-600a ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อโลก
ช่องแช่แข็ง: ช่องแช่แข็งขนาดไม่เล็กเกินไป ไม่มีตัวทำน้ำแข็งให้ แต่มีระบบละลายน้ำแข็งกึ่งอัตโนมัติให้
พื้นที่จัดเก็บ: โดยรวมถือว่าใช้ได้เลยค่ะ เพราะว่าวัสดุชั้นวางสามารถรองรับน้ำหนักได้ 120 กิโลกรัมได้เหมือนกับรุ่นที่มาราคาแพงกว่า
ระยะเวลาการรับประกัน: คอมเพรสเซอร์ 10 ปี ตัวเครื่อง 3 ปี
สิ่งที่ชอบ:
- ขนาดเล็กกระทัดรัด
- มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- ใช้น้ำยาทำความเย็น R-600a ลดภาวะโลกร้อน
- ชั้นวางทำจากกระจกนิรภัย รองรับน้ำหนักได้ถึง 120 กิโลกรัม
- ด้านบนตู้เย็นทนความร้อนสามารถวางอุปกรณืไฟฟ้าขนาดเล็กได้
- มีระบบละลายน้ำแข็งแบบกึ่งอัตโนมัติ
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ไม่มีที่ทำน้ำแข็ง
6.Haier รุ่น HRF-SBS550

ระบบทำความเย็น: Dynamic Inverter | ขนาด: 90.8×64.8×190 เซนติเมตร |
คามจุ: 540 ลิตร หรือ 19.7 คิว | น้ำหนัก: 85 กิโลกรัม |
หากคุณมีครอบครัวขนาดใหญ่หรือกำลังมองหาตู้เย็นที่สามารถใช้แบบ Built-in ได้ แนะนำรุ่นนี้เลย เหตุผลเพราะขนาดใหญ่ สามารถใช้ได้ทั้งแช่เย็นและแช่เเข็ง ดูพรีเมียม ทันสมัย
มีช่องเก็บของจำนวนมากใช้สต๊อกอาหารได้ดี และที่เก๋คือประตูตู้เย็นเป็นแบบ Side-by-side สามารถเปิดได้ 90 องศา ใช้งานสะดวก
ระบบการทำงาน: ตู้เย็นที่ใช้งานโดยระบบดิจิตัล สุดไฮเทค ใช้ตัวทำความเย็นแบบ Inventer ประหยัดพลังงานมากกว่าปกติ 38% มาพร้อมกับระบบกำจัดกลิ่นช่วยลดการสะสมของกลิ่นอับภายในตู้เย็นได้เป็นอย่างดี
ช่องแช่แข็ง: ช่องแช่แข็งกับช่องแช่เย็น อยู่ภายในตู้เดียวกันแต่มีพื้นที่แยกชัดเจน มีตัวทำน้ำแข็งมาให้ ตัวเครื่องยังมีระบบละลายน้ำแข็ง No Frost ด้วย
พื้นที่จัดเก็บ: แน่นอนว่าตู้เย็นขนาดใหญ่ ย่อมมีพื้นที่ในการจัดเก็บเยอะ ที่สำคัญมีช่องใส่อาหารหรือผักผลไม้สดที่เป็นแบบลิ้นชักให้ถึง 4 ช่องด้วยกัน แต่ในรุ่นนี้ไม่มีถาดใส่ไข่มาให้
ระยะเวลาการรับประกัน: คอมเพรสเซอร์ 10 ปี ตัวเครื่อง 3 ปี
สิ่งที่ชอบ:
- ขนาดใหญ่
- รูปแบบประตูตู้เย็นไม่เหมือนใคร
- ใช้ระบบทำความเย็น Inventor
- มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- มีพื้นที่ใส่ของเยอะ
- มีระบบละลายน้ำแข็ง No Frost
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ไม่มีช่องใส่ไข่
- ตัวทำน้ำแข็งไม่มีความพิเศษ เป็นแบบบิดธรรมดา
7.LG รุ่น GN-Y201CLBB

ระบบทำความเย็น: Smart Inverter | ขนาด: 52.5X55.5×113.5 เซนติเมตร |
คามจุ:หรือ 6.1 คิว | น้ำหนัก: ไม่ระบุ |
ตู้เย็น 1 ประตูจาก LG ที่ดูทันสมัย มินิมอล และยังให้ความพรีเมียมสุดๆ เหมาะกับ ขนาดเล็กเหมาะกับการใช้งายสำหรับ 1-2 คน
ระบบการทำงาน: ใช้ระบบทำความเย็นแบบ Smart Inventer จาก LG ซึ่งปรับระดับความเย็นตามปริมาณอาหารและเครื่องดื่มที่ถูกแช่ไว้ ทำให้ประหยัดพลังงานได้ถึง 36 % ภายในเกิดการกระจายความเย็นอย่างทั่วถึง ทำให้อาหารหรือเครื่องดื่มเย็นเร็วทันใจ
ช่องแช่แข็ง: ช่องแช่แข็งธรรมดาๆไม่ได้พิเศษ สามารถปรับระดับความเย็นได้ ไม่มีตัวทำน้ำแข็งแต่มีแป้นพิมน้ำแข็งให้
พื้นที่จัดเก็บ: พื้นที่ข้างในกว้างแต่ยังคิดว่าไม่มีพื้นที่วางของเยอะเท่าไหร่เมื่อเทียบกับตู้เย็น 1 ประตูในยี่ห้อและรุ่นอื่นๆ ในส่วนของลิ้นชักเก็บผักลไม้สด ที่มีขนาดใหญ่
พร้อมกับเทคโนลยี Moist Balance Crisper™ ช่วยคงระดับความชุ่มชื้นภายในช่องแช่ผักมีลักษณะเหมือนรังผึ้ง เอาไว้กักเก็บหมดน้ำไม่ให้ตกลงมาโดนอาหารที่แช่อยู่
ระยะเวลาการรับประกัน: คอมเพรสเซอร์ 10 ปี ตัวเครื่อง 1 ปี
สิ่งที่ชอบ:
- รูปแบบดูแปลกตา
- ใช้ระบบทำความเย็น Inventor
- มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- รับระดับความเย็นตามปริมาณอาหารและเครื่องดื่มที่ถูกแช่ไว้ ทำให้ประหยัดพลังงาน
- มีเทคโนลยี Moist Balance Crisper™ ช่วยคงระดับความชุ่มชื้นภายในช่องแช่ผัก
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ไม่มีตัวทำน้ำแข็ง
8.Hisense รุ่น RR195D4AR1

ระบบทำความเย็น: ไม่ระบุ | ขนาด: 51.9×53.6×113 เซนติเมตร |
คามจุ: 166 ลิตร หรือ 5.9 คิว | น้ำหนัก: ไม่ระบุ |
ตู้เย็น 1 ประตู รูปลักษณ์ทันสมัย บานประตูไร้รอยต่อ พร้อมสีสันที่น่าดึงดูดใจ 2 สีได้แก่ สีเทาและสีแดง เหมาะกับบ้านไหนที่อยู่กัน 1-2 คน
ระบบการทำงาน: ด้านในมีไฟ LED ให้แสงสว่างในการใช้งาน ความเย็นกระจายภายในตู้ได้ทั่วถึง
ช่องแช่แข็ง: ช่องแช่แข็งใช้ระบบกึ่งละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ เมื่อน้ำแข็งก่อตัวหนาประมาณ 5 มิลิเมตร เพียงแค่กดปุ่มละลายน้ำแข็ง ระบบก็จะทำงานให้
พื้นที่จัดเก็บ: ภายในมีพื้นที่ในการวางของจำนวนมาก ทำจากกระจกนิรภัย สามารถรองรับปริมาณและน้ำหนักได้ดี แตกหักยาก
ระยะเวลาการรับประกัน: คอมเพรสเซอร์ 12 ปี ตัวเครื่อง 3 ปี
สิ่งที่ชอบ:
- มีพื้นที่วางของจำนวนมาก
- มีระบบละลายน้ำแข็งกึ่งอัตโนมัติ
- มีช่องใส่ไข่
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ไม่มีตัวทำน้ำแข็ง
9.Hisense รุ่น RB546N4AF1

ระบบทำความเย็น: Inverter | ขนาด: 70.4×68.7×172.3 เซนติเมตร |
คามจุ: 426.4 ลิตร หรือ 15.1 คิว | น้ำหนัก: ไม่ระบุ |
ตู้เย็น 2 ประตู จาก Hisense ที่เป็นที่นิยมในหมู่เครื่องใช้ไฟฟ้าเช่นกัน รุ่นนี้จะพิเศษกว่า รุ่นอื่นๆที่ได้แนะนำไปข้างบนรงที่เขามีตู้แช่เเข็งอยู่ด้านล่างของตู้แช่เย็น พร้อมกับมีพื้นที่สำหรับวางและใส่ของจำนวนมาก และยังเปลี่ยนทิศทางประตูได้ตามต้องการ
หากบ้านไหนกำลังมองหาตู้เย็นไว้สต๊อกอาหาร ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถใส่ได้จำนวนมาก รุ่นนี้คุณไม่ควรพลาดเลยทีเดียว นอกจากนี้จะนำตู้เย็นใช้สำหรับ Built-in ก็กลมกลืนกับครัวแน่นอนค่ะ
ระบบการทำงาน: ตู้เย็นที่ใช้งานโดยระบบดิจิตัล สุดไฮเทค ใช้ตัวทำความเย็นแบบ Inventer ประหยัดพลังงาน ประหยัดค่าไฟ ระบบกระจายความเย็นอย่างทั่วถึงทุกซอก ทุกมุม
มีระบบทำความเย็นด้วย Precise Temperature ที่ทำให้คุณสามารถควบคุมอุณหภูมิการใช้งานระหว่างตู้แช่เย็นและแช่แข็งได้อย่างอิงสระ
ช่องแช่แข็ง: ช่องแช่แข็งเป็นตู้แยกออกจากส่วนของตู้แช่ สามารถลดอุณหภูมิได้ต่ำสุดถึง -18 องศา มีระบบละลายน้ำแข็งที่จะช่วยลดการเกิดก้อนน้ำแข็งในช่องแช่แข็ง มีตัวทำน้ำแข็งแบบบิด
พื้นที่จัดเก็บ: หมดกังวลเรื่องพื้นที่จัดเก็บเขาออกแบบให้สามารถใส่อาหารได้จำนวนมาก
ระยะเวลาการรับประกัน: คอมเพรสเซอร์ 12 ปี ตัวเครื่อง 3 ปี
สิ่งที่ชอบ:
- ใช้ระบบทำความเย็น Inventor
- มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- ช่องแช่แข็งแยกออกต่างหากจากตัวแช่เย็น
- มีพื้นที่ใส่ของเยอะ แบ่งชั้นชัดเจน
- มีระบบละลายน้ำแข็ง No Frost
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ตัวทำน้ำแข็งไม่มีความพิเศษ เป็นแบบบิดธรรมดา
10.TCL รุ่น P475CDS

ระบบทำความเย็น: ไม่ระบุ | ขนาด: 83.3×67.8×185 เซนติเมตร |
คามจุ: 470 ลิตร หรือ 16.3 คิว | น้ำหนัก: 106 กิโลกรัม |
รุ่นสุดท้ายที่แนะนำ ด้วยความที่มีประตูแบบ Side-by-side 4 ประตู พร้อมกับแยกชั้นระหว่างตู้แช่และตู้แช่แข็งให้ย่างชัดเจนทำให้ดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมาก พื้นผิวภายนอกตู้เย็นช่วยป้องกันรอยนิ้วมือ ทำให้ตู้เย็นของคุณดูสะอาดตลอดเวลา
นอกจากนั้นแล้วยังแยกชั้สำหรับวางของ หรือชั้นลิ้นชักไว้ชัดเจน สามารถจัดออแกไนซ์ได้ดี และมีพื้นที่ให้ใช้จำนวนมาก
ระบบการทำงาน: ตู้เย็นสุดไฮเทค ระบบความเย็นกระจายอย่างทั่วถึง สามารถควบคุมผ่านหน้าจอ LED ทําให้ง่ายต่อการดูและปรับอุณหภูมิ เพียงเลือกการตั้งค่า
มีโหมด Power Cool และโหมดวันหยุดหมดกังวลเรื่องค่าไฟและช่วยยืดอายุอาหารของคุณได้ มีระบบล๊อคป้องกันเด็กกดเล่น ใช้น้ำยาทำความเย็น R-600a ลดภาวะโลกร้อน
ช่องแช่แข็ง: ตู้แช่แข็ง มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ ถูกออกแบบมาให้เป็นลิ้นชักจำนวน 6 อันด้วยกัน ทำให้ง่ายต่อการจัดเก็บ
พื้นที่จัดเก็บ: แน่นอนว่าตัวนี้สามารถจัดเก็บได้จำนวนมาก มี 3 ชั้นวาง ด้านข้างมี 6 ชั้นวาง ทำจากแก้ว สามารถปรับระดับได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีช่องเก็บผักผลไม้สด ที่คุณสามารถควบคุมระดับความชื้นได้
ระยะเวลาการรับประกัน: คอมเพรสเซอร์ 10 ปี ตัวเครื่อง 3 ปี
สิ่งที่ชอบ:
- มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- ใช้น้ำยาทำความเย็น R-600a ลดภาวะโลกร้อน
- ช่องแช่แข็งแยกออกต่างหากจากตัวแช่เย็น
- มีพื้นที่ใส่ของเยอะ เป็นระเบียบ
- มีระบบละลายน้ำแข็ง No Frost
- ควบคุมการทำงานผ่านหน้าจอ LED
- มีระบบล๊อคป้องกันเด็ก
- ผิวภายนอกตู้เย็นช่วยป้องกันรอยนิ้วมือ
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ไม่มีตัวทำน้ำแข็ง
เลือกซื้อตู้เย็นอย่างไรดี?
เลือกประเภทของตู้เย็น
ตู้เย็นในปัจจุบันนั้นมีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ขนาด สีและรูปร่างที่แตกต่างกันออกไป เรามาดูกันว่า ตู้เย็นยี่ห้อไหนดี ที่มีรูปร่างและลักษณะที่ตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุดกันเลยค่ะ
ตู้เย็นมินิ (Mini fridge)
ตู้เย็นไซส์เล็ก น่ารักๆ มีขนาดตั้งแต่ 20 ลิตรไปจนถึง 100 ลิตร ใช้งานแช่เย็นพื้นฐานได้ ในบางรุ่นมีช่องแช่แข็งมาให้ด้วย
เหมาะกับการใช้งานสำหรับแช่เครื่องดื่มหรือเครื่องสำอางขนาดเล็กในห้องนอน ห้องทำงาน เป็นต้น
ตู้เย็น 1 ประตู (Single door)
ตู้เย็น 1 ประตู สามารถใช้งานทั่วไปได้ มีขนาดหลากหลายให้เลือกซื้อ และเกือบจะทั้งหมดมาพร้อมกับช่องแช่แข็ง แต่ก็มีข้อจำกัดเพราะส่วนใหญ่จะไม่มีระบบละลายน้ำแข็ง จึงต้องหมั่นละลายน้ำแข็งเพื่อป้องกันการเกาะตัวของก้อนน้ำแข็งนั่นเอง
ตู้เย็น 1 ประตูเหมาะกับบ้านที่มีครอบครัวขนาดเล็ก หรือผู้ที่อยู่อาศัยตามหอพักและเน้นใช้งานแช่เย็นมากกว่าการแช่แข็ง แต่หากบ้านไหนต้องการเน้นพื้นที่แช่แข็งเยอะ แนะนำตู้เย็น 2 ประตูหรือซื้อตู้แช่แข็งจะเวิคกว่าค่ะ
ตู้เย็น 2 ประตู (Double door)
ตู้เย็น 2 ประตูส่วนใหญ่จะแบ่งแยกสำหรับแช่เย็นและแช่แข็งออกจากกันโดยเฉพาะ มี 2 แบบ ได้แก่ แบบที่มีช่องแช่แข็งอยู่ด้านบน (Top freezer refrigerators) และแบบที่มีช่องแช่เเข็งอยู่ด้านล่าง (Bottom freezer refrigerators) ทำให้มีพื้นที่ในการจับเก็บมากขึ้นและแบ่งส่วนชัดเจน โดยส่วนที่เป็นตู้เเช่เย็นจะมีพื้นที่มากกว่าตู้แช่แข็ง
และส่วนใหญ่จะใช้ตัวทำความเย็นแบบ Inventer ที่มาพร้อมกับความสามารถในการกระจายความเย็นอย่างทั่วถึงทั่วตู้เย็น นอกจากนี้แล้วยังมีระบบละลายน้ำแข็งหรือ No Frost จึงหมดกังวลในเรื่องของน้ำแข็งเกาะตัว
ตู้เย็นแบบเปิดตรงกลาง (Side-by-side)
ตู้เย็น Side-by-side เป็นตู้เย็น 2 ประตูที่เปิดจากตรงกลาง มักจะมีขนาดแพงกว่าตู้เย็นแบบอื่นๆเนื่องจากมีขนาดค่อนข้างใหญ่ พืนที่จัดเก็บเยอะ และถูกออกแบบมาให้ใช้กับ Build-in ได้
สามารถตอบสนองการใช้งานพื้นฐานทั่วไปเหมือนกับตู้เย็นแบบอื่นๆแต่อาจจะมีฟังก์ชั่นพิเศษเพิ่มเติม ขึ้อนยู่กับยี่ห้อหรือรุ่นนั้นๆ เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่เน้นใช้กักตุนอาหารและเครื่องดื่ม
ขนาดและความจุ
ควรเช็คตำแหน่งที่จะวางตู้เย็นก่อนว่ามีพื้นที่เพียงพอกับตู้เย็นขนาดไหนบ้างเพื่อที่จะได้ซื้อตู้เย็นที่ถูกใจ หลังจากนั้นดูว่า ตู้เย็นกี่คิวดี? จึงจะตอบโจทย์คุณมากที่สุด โดยเช็คจำนวนสมาชิก
- คนเดียวหรือครอบครัวเล็กๆ: ตู้เย็น 1 ประตูประมาณ 6 คิวก็ช่วยตอบสนองความต้องการพื้นฐานได้แล้ว
- ครอบครัวขนาดกลาง 4-6 คน: แนะนำตู้เย็นแบบ 2 ประตู ที่มีความจุที่ 7-15 คิว เนื่องจากมีพื้นที่ในการจัดเก็บที่มากขึ้น แยกส่วนระหว่างตู้แช่เย็นและตู้แช่แข็ง
- ครอบครัวขนาดใหญ่มากกว่า 6 คน: ควรเลือกซื้อตู้เย็นที่มีขนาดมากกว่า 16 คิว ขึ้นไป
แต่อย่างไรก็ตามคุณควรพิจรณาลักษณะการใช้งานของครอบครัวคุณด้วย กรณีที่บ้านไหนเน้นการกักตุนอาหาร การมีตู้เย็นขนาดใหญ่มีพื้นที่จัดเก็บเยอะ และมีช่องแช่แข็งแยกออกต่างหาก จะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามากกว่าค่ะ
พื้นที่จัดเก็บ
พื้นที่จัดเก็บและใส่ของในตู้เย็นนั้นสำคัญอย่างไร?
- ยิ่งมีพื้นที่จัดเก็บมาก ยิ่งใส่อาหารและเครื่องดื่มได้มาก
- มีกล่องลิ้นชักจัดเก็บเป็นสัดส่วน จะทำให้ตู้เย็นมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
อะไรบ้างที่ควรพิจรณา?
- จำนวนชั้นวาง
- ขนาดของช่องแช่แข็ง
- ขนาดของลิ้นชักสำหรับเก็บักผลไม้สด
ฟังก์ชั่นการทำงาน
ตัวทำความเย็น (Compressors)
ตัวทำความเย็นในตู้เย็น มีอยู่ 2 แบบหลักๆคือแบบทั่วไป โดยมักจะพบในตู้เย็นมินิหรือตู้เย็น 1 ประตู และอีกแบบคือแบบ Inventer เป็นระบบการทำงานที่พิเศษและฉลาดมากกว่าตู้เย็นแบบทั่วไป โดยระบบจะมีการสั่งการเพิ่ม ลด หรือหยุด อุณหภูมิเองตามความต้องการของตู้เย็น
ข้อดีของระบบ Inventer เมื่อเปรียบเทียบกับระบบธรรมดา คือ ช่วยประหยัดพลังงานมากกว่า รักษาความสดใหม่ของอาหารและเครื่องดื่ม และที่สำคัญเสียงเบากว่า
การปรับระดับความชื้น
มักจะใช้กับลิ้นชักผักผลไม้ ที่ต้องการความสดใหม่และป้องการการเน่าเสีย ดังนั้นการมีลิ้นชักตู้เย็นเก็บความชื้นที่สามารถปรับระดับความชื้นได้นั้นเป็นเรื่องที่ดีและเป็นฟังก์ชั่นที่ควรมี
ระบบละลายน้ำแข็ง
ระบบละลายน้ำแข็งนั้นสำคัญในตู้เย็นเป็นอย่างยิ่ง โดยหลักๆแล้วจะมีอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ
- แบบกดละลายน้ำแข็ง: มีปุ่มกดให้สั่งการใช้งานและต้องแกะน้ำแข็งเอง
- แบบกึ่งอัตโนมัติ: มีปุ่มกดสั่งการให้ใช้งานแต่ไม่ต้องแกะน้ำแข็งเพราะตัวเครื่องจะทำหน้าที่ละลายน้ำแข็งเอง จึงต้องหมั่นตรวจเช็ค
- แบบอัตโนมัติ หรือ No Frost: ตัวเครื่องทำหน้าที่สั่งการและละลายน้ำแข็งเอง ไม่ต้องคอยเช็คตลอดเวลา
ทั้ง 3 แบบที่กล่าวไปจะอยู่ในตู้เย็นประเภทที่แตกต่างกัน หากคุณเน้นการใช้ช่องแช่แข็งหรือไม่ต้องการก้อนน้ำแข็งในช่องแช่แข็งควรพิจรณาปัจจัยนี้ด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ
ระบบกำจัดกลิ่น
ฟังก์ชั่นพิเศษอีก 1 ฟังก์ชั่นที่ควรมี กรณีที่คุณใช้ตู้เย็นในการเก็บตุนอาหารทั้งอาหารคาว อาหารสด เพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ตู้เย็นของคุณมีกลิ่นอับชื้นและทำให้อาหารอื่นๆมีอายุสั้นลง
และทั้งหมดนี้คือรีวิวตู้เย็นยี่ห้อไหนดีที่สุด ของปี 2022 หวังว่ารีวิวและความรู้เทคนิคในการเลือกซื้อตู้เย็นจาก Baantiful จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง แล้วเจอกันในบทความหน้านะคะ 😀