แนะนำ 5 หม้อนึ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีของปี 2023 ที่สายรักสุขภาพต้องมี!

หม้อนึ่งไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ทำอาหารที่จะช่วยทำอาหารประเภทต้มและนึ่ง เป็นหนึ่งในวิธีทำอาหารที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพยุคใหม่ ไม่ง้อน้ำมันและไม่ใช้เตาแก๊ส ที่สำคัญคุณยังใช้มันต้มไข่ นึ่งผักและปลาภายในเวลาเดียวกัน 

ในบทความนี้เราจะช่วยคุณเลือกซื้อหม้อนึ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีได้เลือกจากตัวที่มีคุณภาพ ยี่ห้อ ความน่าเชื่อถือ และการรับประกัน มารีวิวให้กับคุณได้ตัดสินใจ ทั้งนี้เราจะพูดถึงเหตุผลที่จะบอกว่าทำไมคุณควรมีหม้อนึ่งไฟฟ้าไว้ติดบ้าน พร้อมแนวทางการเลือกซื้อหม้อนึ่งไฟฟ้าที่เหมาะสม 

	หม้อนึ่งไฟฟ้าที่ดีที่สุด: Tefal Convenient Series VC145 ซื้อได้ที่ Lazada , Shopee
	หม้อนึ่งไฟฟ้าถอดฐานวงแหวนออกได้แนะนำ: Homemate HOM-261481 ซื้อได้ที่ Lazada , Shopee

รีวิว 5 อันดับหม้อนึ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนที่ดีที่สุดของปีนี้ 

1.Tefal รุ่น Convenient Series VC145

• กำลังไฟ: 900W
• น้ำหนัก: 2.55 กก.
• ขนาด:  29.5×29.5×25.8 ซม.
• ประกัน: 2 ปี

หม้อนึ่งไฟฟ้าของทีฟาล์วในรุ่นนี้มาพร้อมกับชั้นวางจำนวน 2 ชั้นเป็นสแตนเลสขัดเงา หนา ทนทานแข็งแรง ใช้กับเครื่องล้างจานได้ พร้อมฝาปิดแก้ว และมีอุปกรณ์เสริมอย่างถาดสำหรับหุงข้าวและธัญพืช รวมใส่ได้ทั้งหมด 6 ลิตร เครี่องเดียวจบไม่ง้อหม้อหุงข้าว ใช้งานง่ายเพราะมีภาพประกอบการใช้งานสำหรับการตั้งค่ากับวัตถุดิบแต่ละประเภท เพียงแค่หมุนปุ่มปรับระดับเวลาต่ำสุด 15 นาที สูงสุด 60 นาที พร้อมเสียงเตือนหากครบเวลา

มีขีดบอกระดับน้ำสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ใส่น้ำได้ 1.8 ลิตร เติมได้ง่ายจากช่องเติมน้ำด้านนอก หากน้ำหมดก่อนจะมีระบบตัดไฟ ทำงานเองโดยอัตโนมัติ ปลอดภัยไร้กังวล สรุปแล้ว Tefal Convenient Series VC145 เป็นหม้อนึ่งไฟฟ้าที่น่าใช้งานมากๆ ราคาหลักพันแต่เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่น่าไว้วางใจ เกรดวัสดุคุณภาพดี ทำให้ตัดสินใจซื้อได้ไม่ยากเลยค่ะ 

• กำลังไฟ: 750W
• น้ำหนัก: 3.27 กก.
• ขนาด: 16x30x29 ซม.
• ประกัน: 1 ปี 

หม้อนึ่งไฟฟ้าฐานสแตนเลส ชั้นวางเป็นพลาสติกเกรดคุณภาพดี ทนความร้อน สามารถมองเห็นจากภายนอกได้ ตัวชั้นวาง 3 ชั้น แต่ละชั้นสูงประมาณ 9 เซนติเมตร เหมาะกับคนที่ต้องการหม้อนึ่งไฟฟ้าที่จุได้เยอะๆ และยังสามารถถอดฐานวงแหวนนึ่งแยกออกมาทำให้ง่ายต่อทำความสะอาดมากๆ แต่ชั้นวางจะต้องประกอบเรียงตามลำดับที่กำหนดมาให้ 

รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับถาดหุงข้าวขนาด 1.1 ลิตรอีกด้วยค่ะ ส่วนการตั้งค่าการทำงาน ตั้งค่าได้มากสุด 0-60 นาที ครอบคลุมทุกการใช้งาน แต่ถ้าตั้งค่าต่ำกว่า 13 นาทีจะต้องใส่น้ำที่ตัวบอกระดับน้ำที่ Min (ต่ำสุด) เติมน้ำได้ที่ช่องเติมน้ำ เมื่อจบการทำงานจะมีการตัดการทำงานอัตโนมัติพร้อมกับสัญญาณแจ้งเตือน 

และสิ่งสำคัญคือสามารถนำชั้นวางไปทำความสะอาดกับเครื่องล้างจานได้ยกเว้นตัวฐานของมัน จากคุณสมบัติที่กล่าวมาทั้งหมดทำให้ Homemate HOM-261481 เป็นหม้อนึ่งไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมนั่นเองค่ะ 

3.Tefal รุ่น VC139810

• กำลังไฟ: 800W
• น้ำหนัก: 1.71 กก.
• ขนาด: 25.2×32.2×37 ซม.
• ประกัน: 2 ปี 

หม้อนึ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี อีกตัวจากทีฟาล์วยี่ห้อคู่ใจชาวไทย โดยรุ่นนี้จะมีชั้นวางที่ทำมาจากพลาสติกที่ปลอดสาร BPA ปลอดสารก่อมะเร็ง ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ จำนวนชั้นวาง 2 ชั้น รองรับได้ 6 ลิตรเพียงพอต่อการใช้งาน มาพร้อมกับถาดหุงข้าว 

สามารถตั้งเวลาการทำงานได้สูงสุด 60 นาที ใช้อุ่นอาหารก็ได้โดยตั้งเวลาที่ประมาณ 10 นาที มีขีดระดับน้ำด้านหน้าช่วยบอกว่าควรเติมน้ำเมื่อไหร่ แล้วสามารถเติมน้ำได้จากช่องเติมน้ำด้านข้างใช้สะดวก เมื่อเสร็จจะมีเสียงเตือน ราคาหลักพันแต่จะถูกกว่ารุ่นสแตนเลสที่เราได้แนะนำไปข้างบน 

ตัวชั้นวางนำไปล้างกับเครื่องล้างจานได้ไม่มีปัญหา ที่ชอบมากๆคือจัดเก็บได้ง่ายอีกด้วย โดยเอาชั้นวางมาควบซ้อนจัดเก็บบนหม้อนึ่งได้เลย ประหยัดพื้นที่มากๆค่ะ หากนี่คือคุณสมบัติที่คุณกำลังมองหา อย่ารอช้าเลยค่ะ 

4.Bear รุ่น BR0013

• กำลังไฟ: 650W
• น้ำหนัก: 2.17 กก.
• ขนาด: 33.5×29.3×23.6 ซม.
• ประกัน: 1 ปี 

หม้อนึ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี ที่รับรองคุณจะต้องชอบในความน่ารักของมันจากยี่ห้อแบร์ เป็นหม้อแสตนเลส 2 ชั้น หนา 0.4 มิลลิเมตร แข็งแรง ไม่เป็นอันตราย ใช้ได้นาน ทนสนิมและความร้อน แถมแต่ละชั้นมีหูจับซิลิโคนกันความร้อน 

ทั้งหมดจุได้ 4 ลิตร ทรงแคปซูล ฐานสีฟ้า น่าใช้งาน มีฝาปิดด้านบนเป็นกระจกสีใส ทรงสูง ใส่วัตถุดิบชิ้นใหญ่ได้ สามารถมองเห็นด้านในได้ จะนึ่ง หรือจะอุ่นอาหารก็ตอบโจทย์ หรือจะนึ่งขวดนมเด็กเพื่อฆ๋าเชื้อโรคก็ยังได้เลยค่ะ 

ตั้งค่าเวลาการทำงานได้สูงสุด 60 นาที มีเสียงเตือนเมื่อครบเวลา นอกจากนั้นมันก็ยังตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำแห้ง แต่ไม่ต้องกังวลใจไปเพราะมันมีขีดบอกระดับน้ำให้เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน แถมยังมีช่องเติมน้ำให้ 2 ช่องด้วย เป็นหม้อนึ่งไฟฟ้าที่ใช้งานได้เบสิคทั่วไปเลย ตอบโจทย์กับการใช้งานที่บ้านสุดๆ 

5.Otto รุ่น SM-212A

• กำลังไฟ: 850W
• น้ำหนัก: 2.45 กก.
• ขนาด: 29x20x40 ซม.
• ประกัน: 1 ปี 

Otto SM-212A เป็นหม้อนึ่งไฟฟ้าที่อยากแนะนำตัวสุดท้ายของรีวิว จุได้ทั้งหมด 7.5 ลิต เนื่องจากชั้นวางมีช่อง 3 ชั้นพลาสติกเกรดคุณภาพดี เป็น Food Grade ทนความร้อน ปลอดภัยมั่นใจได้ สามารถถอดถาดรองของแต่ละชั้นออก เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด 

ใช้งานง่าย ตั้งค่าการทำงานสูงสุด 1 ชั่วโมง พร้อมเสียงเตือนเมื่อครบเวลา มีขีดแสดงระดับน้ำพร้อมช่องเติมน้ำ หากน้ำแห้งมีไฟตัดอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัยอีกขั้น เป็นหม้อนึ่งไฟฟ้าอีกยี่ห้อที่ใช้งานเบสิคๆ แต่ครบครัน ไม่แพ้กับยี่ห้ออื่นๆเลยค่ะ 

หม้อนึ่งไฟฟ้าดียังไง? 

หม้อนึ่งไฟฟ้านอกจากจะช่วยให้คุณได้รับอาหารเฮลตี้ๆตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพ มากกว่าการทอดหรือปิ้งย่างแล้ว เราจะอธิบายเหตุผลว่าหม้อนึ่งไฟฟ้าดียังไง? ทำไมมันจึงน่าใช้? ซึ่งเราได้นำเอาข้อดีของหม้อนึ่งไฟฟ้ามาสรุปให้กับคุณได้ตัดสินใจซื้อตามข้างล่างนี้เลยค่ะ 

• ใช้งานง่าย: หม้อนึ่งไฟฟ้าเป็นอะไรที่ใช้ง่ายมากๆ มันจะมีปุ่มหมุนตั้งค่าเวลาในการในการทำงานสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 60 นาที เราแค่เสียบปลั๊กแล้วตั้งค่าเวลาที่ต้องการ จากนั้นก็รอมันทำงาน ทั้งนี้หม้อนึ่งไฟฟ้าบางตัว เราสามารถสังเกตุจากภายนอกได้เลย เพราะมันมักจะมาพร้อมกับชั้นวางสีใส หรือฝากระจกที่มองเห็นจากภายนอกได้ทำให้สามารถคาดเดาง่าย 

• ประหยัดเวลา: มันช่วยประหยัดเวลามาก เพราะมันสามารถนึ่งอาหารหลากหลายอย่างภายในเวลาเดียวกัน นั่นเพราะว่ามันมักจะมาพร้อมกับชั้นวาง 1-3 ชั้น ทำให้เพิ่มพื้นที่ในการทำอาหาร ไม่ว่าจะนึ่งผัก หอยปลาหรือต้มไข่ สะดวกรวดเร็วจบ ครบในขั้นตอนเดียว 

• เป็นวิธีทำอาหารที่ดีต่อสุขภาพ: การนึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการทำอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากๆ อย่างแรกเลยคือ ไม่ต้องใช้น้ำมันในการประกอบอาหาร เพราะน้ำมันและไขมันเป็นส่วนหนึ่งที่เพิ่มคอเลสเตอรอลในร่างกายให้สูงขึ้น เมื่อมีมากเกินก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพ คือทำให้หลอดเลือดตีบได้ อีกอย่างเมื่อเราใช้หม้อนึ่งไฟฟ้าในการทำอาหารจะช่วยรักษาสารอาหาร วิตามินได้มากกว่าการปรุงอาหารแบบอื่นๆ อย่างการทอด ปิ้งและย่าง แถมยังรักษาสีสันของมันให้ยังคงสวยงามน่ารับประทานกว่าอีกไหนๆ  

• ไม่ต้องใช้เตาแก๊ส: หม้อนึ่งไฟฟ้าค่อนข้างอเนกประสงค์ พกพาไปได้กับคุณทุกการเดินทาง เพราะหม้อนึ่งไฟฟ้าไม่ต้องใช้เตา ไม่ใช้แก๊สในการใช้งาน ขอเพียงมีปลั๊กเสียบเท่านั้นเอง 

• ล้างทำความสะอาดง่าย: มันมีอุปกรณ์น้อยชิ้นที่ถอดออกมาทำความสะอาดได้เลย และยังเข้าถึงได้ง่าย ไม่ค่อยมีมุบอับๆที่ยากต่อการทำความสะอาดเหมือนหม้อทอดไร้น้ำมัน 

การเลือกซื้อหม้อนึ่งไฟฟ้า

เราเข้าใจดีว่าในท้องตลาดมีหลายยี่ห้อ หลายรุ่นให้เลือกซื้อมากมาย ทำให้ไม่รู้ว่าควรจะเลือกยังไง เรามีวิธีเลือกซื้อหม้อนึ่งไฟฟ้าโดยการเช็คปัจจัยที่สำคัญๆ ตามข้างล่างนี้ รับรองมันจะทำให้คุณเลือกซื้อหม้อนึ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี ได้ตรงใจและรวดเร็วมากขึ้น 

เลือกจากความจุและจำนวนชั้น 

จะใช้นึ่งอาหารมากน้อยเพียงไหน? ต้องการนึ่งทั้งผักและเนื้อสัตว์? ตั้งคำถามกับความต้องการในการใช้งาน หากคุณต้องการนำมาใช้งานกับปริมาณอาหารที่มากๆ รวมไปถึงประเภทของวัตถุดิบที่แตกต่างกัน การเลือกหม้อนึ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีที่มีจำนวนชั้นมากๆ ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกได้มากขึ้น กล่าวคือใส่ได้เยอะขึ้นและยังเอาชั้นใดชั้นหนึ่งออกก่อนหากมันสุกเร็วกว่า 

เลือกจากวัสดุของชั้น 

วัสดุของชั้นใส่เท่าที่เห็นมี 2 คือแบบสแตนเลสและแบบพลาสติก โดยสแตนเลสจะมีความร้อนที่สม่ำเสมอและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน บางตัวมีสารเคลือบกันติดมาด้วย แต่มีข้อจำกัดคือเราไม่สามารถมองเห็นอาหารภายในจากด้านข้างได้ ส่วนแบบพลาสติกจะมองเห็นอาหารได้ง่าย แต่ก็ควรเลือกตัวที่ปลอดสาร BPA ข้อเสียคือต้องระวังในการใช้งาน เพราะจะมีความบอบบางกว่า 

เลือกฟังก์ชั่นในการทำงาน 

ควรเลือกหม้อนึ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี จากฟังก์ชั่นที่ง่ายต่อการใช้งาน โดยฟังก์ชั่นที่สำคัญๆได้แก่ระดับการตั้งเวลา ตัวบอกระดับของน้ำที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน และช่องเติมน้ำ เนื่องจากการนึ่งจำเป็นต้องใส่น้ำเข้าไปในเครื่องเพื่อทำงาน ดังนั้นควรมองหารุ่นที่มีช่องเติมน้ำด้วย 

สรุปส่งท้าย 

สรุปแล้วหม้อนึ่งไฟฟ้ายังน่าซื้ออยู่ไหม? ตอบได้เลยว่า หม้อนึ่งไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ใช้ไฟฟ้าที่น่าซื้อมากๆค่ะ โดยเฉพาะบ้านไหนที่ต้องการทำมื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพ หรือคนที่อาศัยอยู่ตามห้องพักที่ไม่สามารถใช้เตาแก๊สได้ 

เราขอแนะนำหม้อนึ่งไฟฟ้าไว้ติดบ้าน เพราะมันมีข้อดีมากมาย แต่อย่าลืมเลือกหม้อนึ่งไฟฟ้าจากความต้องการในการใช้งานที่สำคัญๆอย่างความจุและจำนวนชั้น วัสดุของชั้นใส่และ ฟังก์ชั่นในการใช้งานอื่นๆอย่าง เวลาตั้งค่า และช่องเติมน้ำ เพียงแค่นี้คุณก็จะได้หม้อนึ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีไว้ใช้แล้ว! 

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารีวิวหม้อนึ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีของเราจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อได้นะคะ