กาต้มน้ำไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ในครัวที่บ้านไหนก็ต้องมี เพราะมันสะดวกรวดเร็วในการชงเครื่องดื่มร้อน อย่างชาและกาแฟ รวมไปถึงอาหารร้อนอย่างการต้มมาม่าโดยไม่ต้องเปิดเตาแก๊สให้เสียเวลา คือยังไงก็ได้ใช้แน่นนอนค่ะ
อย่างไรก็ตามในท้องตลาดเรารู้กันดีว่ามีกาต้มน้ำไฟฟ้าวางขายอยู่มากมาย มีหลายรุ่น หลายขนาด หลายฟังก์ชั่นให้เลือกซื้อใช่ไหมหล่ะ? เราเข้าใจดีค่ะว่าแต่ละคนมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน
ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับกาต้มน้ำไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีทั้ง 10 อันดับตัวที่น่าใช้งานมากที่สุดในตอนนี้ พร้อมข้อพิจรณาเลือกซื้อกาต้มน้ำให้เหมาะสมกับความต้องการเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจ หวังว่ามันจะช่วยคุณได้นะ
![]() | กาต้มน้ำขนาด 1.5 ล. ที่แนะนำ: Philips HD9306ซื้อได้ที่ Lazada , Shopee |
![]() | แนะนำกาต้มน้ำขนาด 1.7 ล. ที่แนะนำ: Hafeleซื้อได้ที่ Lazada , Shopee |
![]() | แนะนำกาต้มน้ำขนาด 1.8 ล. ที่แนะนำ: Simplus DRSH002 ซื้อได้ที่ Lazada , Shopee |
![]() | แนะนำกาต้มน้ำขนาด 2 ล. ที่แนะนำ: Imarflex IF-283 ซื้อได้ที่ Lazada , Shopee |
10 กาต้มน้ำไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีที่สุดของปี 2023
1.Philips รุ่น HD9306

ความจุ: 1.5 ล.
กำลังไฟ: 1,800W
วัสดุ: สแตนเลสสตีล
ประกัน: 2 ปี
Philips HD9306 เป็นกาต้มน้ำที่ใช้งานง่าย เบสิคๆ หากคุณกำลังมองหากาต้มน้ำที่เอาไว้ใช้คนเดียวหรือสองคนรุ่นนี้ก็เพียงพอค่ะ โดยขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้ล้างทำความสะอาดง่าย และมีกำลังวัตต์สูงทำให้มันต้มน้ำร้อนเสร็จไวภายในเวลาไม่เกิน 5 น.
ดีไซน์ไม่ได้หวือหวา แต่ต้องบอกเลยว่าเกรดคุณภาพของมันดีจริงๆค่ะ เพราะตัวบอดี้ใช้วัสดุที่ทำจากสแตนเลสสตีล ประกอบกับมือจับทำจากพลาสติกที่มีขนาดใหญ่ ที่ฝามีปุ่มกด ระบบสริง เปิดออกง่ายช่วยลดการสัมผัสกับความร้อน
โดยรวมมันค่อนข้างคอมแพค แข็งแรงทำให้มั่นใจว่าจะใช้งานได้ยาวๆ ถึงแม้รุ่นนี้ไม่มีฟิลเตอร์กรอง จึงอยากให้คุณพิจรณาก่อนเลือกซื้อ แต่หากคุณไม่ซีเรียสเรื่องนี้ Philips รุ่น HD9306 คือตัวเลือกที่คุ้มค่ามากที่สุดแล้วในตอนนี้
- ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเดือด/น้ำแห้ง
- ภายในมีตัวบอกระดับน้ำ
- แท่นชาร์จหมุนได้ 360° พร้อมม้วนเก็บสายไฟได้ข้างใต้
- ไม่มีฟิลเตอร์กรอง
2.Hafele กาต้มน้ำสไตล์วินเทจ

ความจุ: 1.7 ล.
กำลังไฟ: 1,850-2,200W
วัสดุ: สแตนเลสสตีล
ประกัน: 1 ปี
หากคุณกำลังมองหากาต้มน้ำไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีที่นอกจากคุณภาพแล้ว แต่รูปลักษณ์ดีไซน์ก็สำคัญ Hafele กาต้มน้ำสไตล์วินเทจนี้จะช่วยทำให้ห้องครัวดูโดดเด่นขึ้นมาทันตา ด้วยตัวบอดี้ทำจากสแตนเลสสตีล เคลือบเงา มีสีดำและสีครีม รูปทรงอวบๆ เหมือนกาต้มที่ใช้กับเตาแก๊สหรือเตาถ่านแบบดั้งเดิม
เราเป็นคนนึงที่ชอบทรงประมาณนี้ เพราะรู้สึกว่ามันทำความสะอาดได้ง่ายกว่าทรงสูงมากๆ อีกทั้งยังมีหน้าปัดเทอโมมิเตอร์ ที่ไม่ได้ทำเพื่อความสวยงามเท่านั้นแต่มันสามารถใช้ได้จริง โดยจะบอกอุณหภูมิของน้ำภายในกาสูงสุดที่ 100°C
ส่วนนี้จะช่วยทำให้เราได้อุณหภูมิร้อนตามความเหมาะสมในเครื่องดื่มที่แตกต่างกัน อย่างในชาอุณหภูมิที่ประมาณ 70 องศา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชาแต่ละประเภทด้วย คุณจะต้องยกกาออกเองเพื่อให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสม
ส่วนฝาไม่ได้ยึดติดกับกาน้ำสำหรับเราแล้วมันมีส่วนทำให้ล้างสะดวก แต่ทั้งนี้องศาการจับจะอยู่ด้านบนอาจทำให้ไม่ชินและเป็นอุปสรรคในการเทน้ำในบางคนได้เช่นกันค่ะ
- มีเทอโมมิเตอร์วัดอุณหภูมิของน้ำ
- ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเดือด/น้ำแห้ง
- มีตัวบอกระดับน้ำอยู่ภายนอกตัวกา
- แท่นชาร์จหมุนได้ 360°
- ไม่มีฟิลเตอร์กรอง
3.Electrolux รุ่น E2EK1

ความจุ: 1.7 ล.
กำลังไฟ: 1,850-2,200W
วัสดุ: พลาสติก
ประกัน: 2 ปี
หากคุณต้องการกาต้มน้ำไฟฟ้าที่มีตัวกรองหรือฟิลเตอร์ เพื่อป้องกันเศษคราบตะกรันที่อาจสะสมอยู่ภายในกา Electrolux E2EK1 คือตัวเลือกที่ใช่เลยค่ะ! แต่จะใช้วัสดุหลักเป็นพลาสติกเกรดทนความร้อนสูง ในที่นี้คือพลาสติก PP ข้อดีคือราคาสบายกระเป๋าเมื่อเทียบกับกาต้มน้ำสแตนเลส แต่อายุการใช้งานและความทนทานจะน้อยกว่าแน่นอน
อย่างไรก็ตามด้วยขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ จุปริมาณได้เยอะ จึงตอบโจทย์กับคนที่กำลังมองหากาต้มน้ำไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีเพียงพอกับครอบครัว ราคาไม่แพง อีกทั้งมาจากแบรนด์ผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ Electrolux E2EK1 เป็นตัวเลือกที่ตัดสินใจได้ไม่ยากเลยค่ะ
- ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเดือด/น้ำแห้ง
- แสดงขีดระดับน้ำสังเกตุได้จากภายนอกตัวเครื่อง
- แท่นชาร์จหมุนได้ 360° พร้อมม้วนเก็บสายไฟได้ข้างใต้
- มีฟิลเตอร์กรองน้ำ
4.LocknLock รุ่น EJK738

ความจุ: 1.7 ล.
กำลังไฟ: 1,800W
วัสดุ: สแตนเลสสตีลและพลาสติก
ประกัน: 2 ปี
หากคุณต้องการกาต้มน้ำขนาดใหญ่เพื่อรองรับจำนวนสมาชิกในบ้านหรือที่ทำงาน เพอเฟคกับคนที่ชอบดื่มเครื่องดื่มร้อนอย่างชาและกาแฟหรือทำเมนูร้อนง่ายๆด้วยกาต้มน้ำไฟฟ้าอย่างต้มมาม่า LocknLock รุ่น EJK738 อาจเป็นกาต้มน้ำไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีที่คุณกำลังมองหาอยู่
มี 3 สี ดำ ขาวและแดงให้เลือกซื้อด้วยโครงสร้างผนัง 2 ชั้นด้านในสแตนเลสสตีล รักษาอุณหภูมิความร้อนได้ ช่วยให้น้ำร้อนเร็วและด้านนอกพลาสติก PP ช่วยลดความร้อนกระจายออกผิวด้านนอก ให้สัมผัสที่อุ่น
กาต้มน้ำจาก LocknLock รุ่นนี้มีฝาปิดแบบปุ่มดึงจากด้านบนฝา ไม่ใช่ปุ่มเด้งอัตโนมัติดังนั้นจึงอยากให้พิจรณาก่อการตัดสินใจซื้อ และถึงแม้ตัวฝาล็อคติดกับตัวกาซึ่งบางคนอาจจะคิดว่ามันทำความสะอาดยาก แต่ด้วยความที่ปากของตัวกามีขนาดกว้างจึงทำให้การล้างทำความสะอาดเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาเลยทีเดียวค่ะ
สำหรับเราแล้ว LocknLock รุ่น EJK738 คือตัวเลือกที่น่าลงทุนอีกตัว ดีไซน์เรียบง่าย มีสีให้เลือก คุณภาพก็ดีอีกด้วย
- ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเดือด
- ภายในมีขีดบอกระดับน้ำ
- แท่นชาร์จหมุนได้ 360°
- ไม่มีฟิลเตอร์กรองน้ำ
5.Imarflex รุ่น IF-283

ความจุ: 2 ล.
กำลังไฟ: 1,500W
วัสดุ: สแตนเลสสตีล
ประกัน: 1 ปี
Imarflex IF-283 กาต้มน้ำไซส์ใหญ่จุใจ ขนาด 2 ล. มาในราคาหลักร้อย สบายกระเป๋า ด้วยวัสดุแตนเลสสตีล แข็งแรงทนทาน พร้อมมือจับหนา จับสะดวกปลอดภัย ใช้ง่าย เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการกาต้มน้ำไฟฟ้าบิ๊กไซต์ ราคาไม่แพง
- ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเดือด
- ภายในมีขีดบอกระดับน้ำ
- แท่นชาร์จหมุนได้ 360°
- ไม่มีฟิลเตอร์กรองน้ำ
6.Tefal รุ่น KO150166

ความจุ: 1.5 ล.
กำลังไฟ: 2,400W
วัสดุ: พลาสติก
ประกัน: 2 ปี
Tefal KO150166 เป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหากาต้อมน้ำไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีที่มีขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ขนาด 1.5 ล. ตอบโจทย์การใช้งานเล็กๆในห้องทำงาน หรือคนที่อยู่หอพัก ตัวกามีโครงสร้างที่ทำด้วยพลาสติกทนความร้อน พร้อมเพลทด้านล่างเป็นสแตนเลสสตีลช่วยทำความร้อนได้เร็ว ประกอบกับกำลังวัตต์ที่สูงทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มองหากาต้มน้ำร้อนไว
สิ่งที่โดดเด่นของมันนอกจากการทำความร้อนไวแล้ว ตัวรูเทน้ำยังมีฟิลเตอร์ที่ถอดออกไปล้างได้ ช่วยป้องกันคราบตะกรันหลุดไปยังเครื่องดื่มของคุณ สร้างความมั่นใจถึงความสะอาดอีกขึ้นตอน ตัวฝาถอดออกได้ สำหรับเรามันทำให้ล้วงทำความสะอาดได้ง่ายกว่าแบบที่ฝาติดกับกาน้ำมาก
- ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเดือด
- ภายในแสดงขีดระดับน้ำ
- แท่นชาร์จหมุนได้ 360° พร้อมม้วนเก็บสายไฟได้ข้างใต้
- มีฟิลเตอร์กรองน้ำ
7.Electrolux รุ่น E7EK1

ความจุ: 1.7 ล.
กำลังไฟ: 2,400W
วัสดุ: สแตนเลสสตีล
ประกัน: 2 ปี
สำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับการดื่มเครื่องดื่มร้อนมากเป็นพิเศษ เราขอแนะนำ Electrolux E7EK1 รุ่นที่เลือกตั้งค่าอุณหภูมิความร้อนที่เหมาะสมกับเครื่องดื่มแต่ละประเภทได้อย่างเพอเฟคที่สุด แล้วยังตั้งอุ่นได้นาน 40 น. โดยไม่ต้องต้มซ้ำๆ
ดูเหมือนมันจะมีปุ่มใช้งานซับซ้อนมากมายใช่หรือเปล่าคะ? แต่เปล่าเลย มันมีแผงกดปุ่มไม่กี่ตัว สำหรับกดเลือกปุ่มเพิ่มและลดอุณหภูมิ เลือกได้ 7 ระดับ ตั้งแต่ 40°C ไปจนถึงสูงสุด 100°C เลยทีเดียวค่ะ อีกทั้งดีไซน์สวยเรียบหรู ดูมีสไตล์นี้จะทำให้คุณหลงรักแน่นอน
อย่างไรก็ตามกาต้มน้ำแบบนี้จะมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับกาต้มน้ำไฟฟ้าแบบธรรมดา แต่เนื่องจากคุณสมบัติข้างบนประกอบกับมีตัวกรองตะกรันน้ำที่เอาไปล้างทำความสะอาดได้ จึงเป็นตัวเลือกที่น่าจับจองอีกตัวหนึ่งเลย
- ตั้งค่าอุณหภูมิของน้ำได้
- ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเดือด
- แสดงขีดระดับน้ำมองเห็นได้จากภายนอก
- มีฟิลเตอร์กรองน้ำ
8.Toshiba รุ่น KT-T17DR1

ความจุ: 1.7 ล.
กำลังไฟ: 1,800W
วัสดุ: สแตนเลสสตีล
ประกัน: 1 ปี
หากกังวลว่าเด็กจะไปสัมผัสผิวของกาน้ำร้อน เราขอแนะนำ Toshiba KT-T17DR1 เพราะใช้สแตนเลสสตีล 2 ชั้น โดยชั้นนอกให้ผิวสัมผัส Cool touch ปกป้องความร้อนจากภายในกระจายสู่ภายนอก ส่วนสแตนเลสสตีลด้านในจะช่วยรักษาอุณหภูมิความร้อนให้อยู่นาน ดีไซน์เรียบๆ แต่ขนาดใหญ่จุใจ แข็งแรงทนทาน จากแบรนด์คุณภาพชั้นนำ มีปุ่มกดเปิดฝาง่ายต่อการเทน้ำ อีกทั้งปากกาน้ำกว้างมากล้างทำความสะอาดได้สบายๆค่ะ
- ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเดือด
- ด้านนอกมีขีดบอกระดับน้ำ
- แท่นชาร์จหมุนได้ 360°
- ไม่มีฟิลเตอร์กรองน้ำ
9.Simplus รุ่น DRSH002

ความจุ: 1.8 ล.
กำลังไฟ: 1,500W
วัสดุ: สแตนเลสสตีล
ประกัน: 1 ปี
หากคุณกำลังมองหากาต้มน้ำขนาด 1.8 ล. Simplus DRSH002 แถมยังมีราคาหลักร้อย ประหยัดและคุ้มค่าอีกตัวหนึ่งที่แนะนำค่ะ รุ่นนี้มาพร้อมกับผนัง 2 ชั้น ชั้นในเป็นสแตนเลส ข้างนอกเป็นพลาสติก PP ปกป้องมือจากความร้อน ฝาปุ่มล็อคป้องกันอย่างแน่นหนา ปากของกาน้ำกว้างช่วยเทน้ำสะดวกและยังล้างทำความสะอาดง่าย ที่สำคัญมี 2 สีให้เลือกซื้อ ได้แก่เทาและสีขาว โดยรวมเป็นกาต้มน้ำคุณภาพดีราคาไม่แพงอีกตัวที่แนะนำ
- ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเดือด/น้ำแห้ง
- ด้านในมีขีดบอกระดับน้ำ
- แท่นชาร์จหมุนได้ 360°
- ไม่มีฟิลเตอร์กรองน้ำ
10.Mitsuta รุ่น MEK181

ความจุ: 1.8 ล.
กำลังไฟ: 1,500W
วัสดุ: สแตนเลสสตีล
ประกัน: 1 ปี
กาต้มน้ำไฟฟ้าขนาด 1.8 ล. อีกยี่ห้อที่น่าสนใจจาก Mitsuta ในรุ่น MEK181 เนื่องจากขนาดที่ใหญ่แล้วราคาก็คุ้มค่าน่าซื้อมากๆค่ะ ไม่เกิน 500 บาท ถึงแม้การใช้งานกับดีไซน์ไม่ได้แตกต่างจากกาต้มน้ำไฟฟ้าแบบธรรมดาๆตัวอื่นๆเท่าไหร่นัก แต่มันมีคุณภาพดีแข็งแรง ทนทาน ฝาปิดหนาแน่น แถมน้ำเดือดเร็วไม่แพ้กับแบรนด์ชั้นนำเลยค่ะ ถ้านี่คือคุณสมบัติที่คุณกำลังมองหาอยู่ อย่ารอช้าเลย
- ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเดือด
- แท่นชาร์จหมุนได้ 360°
- ไม่มีฟิลเตอร์กรองน้ำ
เลือกซื้อกาต้มน้ำไฟฟ้าอย่างไรดี?
เมื่อต้องการซื้อกาต้มน้ำไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องดูรายละเอียดบางอย่างก่อน ข้างล่างนี้เป็นคุณสมบัติสำคัญที่ควรมองหาในกาต้มน้ำสำหรับใช้ในบ้านและยังเป็นไอเดียที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายและเร็วขึ้น พร้อมแล้วเราไปดูกันเลยค่า!
ความจุ
ความจุคือปริมาณที่กาต้มน้ำสามารถรองรับได้ในแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่บอกค่าเป็นลิตร(ล.) โดยเฉลี่ยแล้วมีขนาดอยู่ที่ 1.5-2 ล. ถ้าหากคุณต้องการกาต้มน้ำไฟฟ้าที่ใช้สำหรับคนหรือสองคน กาต้มน้ำขนาด 1.5 ล. ก็เพียงพอค่ะ แต่ถ้าบ้านมีจำนวนสมาชิกมากหรือต้องการใช้เพื่อวัตถุประสงค์หลายอย่าง เราแนะนำขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยแล้วแต่การพิจรณาในการใช้
กำลังไฟฟ้า
กำลังไฟมีหน่วยเป็นวัตต์(W) มันบ่งบอกถึงความสามารถในการทำความร้อนของกาต้มน้ำไฟฟ้าของรุ่นนั้น ว่าร้อนเร็วแค่ไหน หากมีวัตต์สูง ก็จะทำให้น้ำเดือดได้เร็วมากขึ้น ถ้าสิ่งนี้คือคุณสมบัติที่คุณต้องการกาต้มน้ำไฟฟ้าตัวที่มีวัตต์สูงๆก็จะตอบโจทย์มากที่สุดค่ะ
ความปลอดภัย
ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามในเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นขนาดใหญ่หรือเล็ก เพราะมันจะช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในกรณีฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี ดังนั้นควรดูว่ากาต้มน้ำไฟฟ้าที่สนใจอยู่นั้นมีระบบความปลอดภัยหรือไม่ ระบบความปลอดภัยที่ควรมองหาที่สำคัญอย่างเช่น ระบบตัดไฟอัตโนมัติ โดยมันจะหยุดการทำงานหากมีอุณหภูมิสูงเท่าจุดเดือดหรือกรณีที่น้ำแห้งจนเกินไป
ความง่ายต่อการใช้งาน
นอกจากความจุ กำลังไฟฟ้า และระบบรักษาความปลอดภัยแล้ว ความง่ายต่อการใช้งานก็เป็นอีกคุณสมบัติที่สำคัญมาก เราแนะนำให้เช็คว่ากาต้มน้ำไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีแต่ละรุ่นนั้นว่ามันจะช่วยอำนวยความสะดวกกับคุณเพิ่มขึ้นหรือเปล่า ข้างล่างนี้เป็นไอเดียเพื่อใช้ในการตัดสินใจ มาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง
- ขีดแสดงระดับน้ำ: สิ่งนี้จะช่วยบอกปริมาณน้ำตามความต้องการได้อย่างเหมาะสม
- ฐานวางหมุนได้ 360°: ช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดวาง
- ฐานกันลื่น: ช่วยให้ฐานแข็งแรงความมั่นคง จัดวางบนเคาเตอร์หรือโต๊ะได้อย่างปลอดภัย
- มือจับ: เช็คดูว่ารูปแบบมือจับของกาต้มน้ำจะช่วยปกป้องการสัมผัสกับผิวขณะที่น้ำร้อนหรือไม่ มือจับที่มีขนาดใหญ่และแข็งแรงจะช่วยรับน้ำหนักของตัวเครื่องและป้องกันน้ำร้อนลวกมือได้
- ฝาปิด: ฝาปิดที่ดีจะต้องล็อคกันหกได้อย่างหนาแน่น หากต้องการหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดนความร้อนเลือกฝาปิดที่มีปุ่มเปิดโดยเฉพาะ
- ปุ่มปรับอุณหภูมิ: กาต้มน้ำไฟฟ้าบางรุ่นสามารถปรับอุณหภูมิที่เหมาะสมของประเภทเครื่องดื่มที่แตกต่างกันได้
เป็นอย่างไรกันบ้างกับบทความรีวิวกาต้มน้ำไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีจากเรา หวังว่ามันจะช่วยให้คุณเลือกซื้อกาต้มน้ำยี่ห้อที่ดีที่สุดนะคะ