8 เครื่องชั่งน้ำหนัก ยี่ห้อไหนดี (ระบบดิจิตอล)

ไม่ว่าเป้าหมายสุขภาพของปีนี้จะเป็นการลดน้ำหนัก เพิ่มน้ำหนัก สร้างกล้ามเนื้อหรือลดไขมัน คุณสามารถใช้เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลในการติดตามและประเมินค่าเหล่านั้นด้วยตนเองที่บ้านอย่างง่ายดาย

การเลือกซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักที่ดีนั้นควรคำนึงถึงความสม่ำเสมอของข้อมูลที่วัดออกมาได้ คือมันควรจะให้ข้อมูลในการวัดแต่ละครั้งไปแตกต่างกันมากจนเกินไป 

และเนื่องจากมันมีตัวเลือกให้ซื้อเยอะ ทำให้การซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดไว้ แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะวันนี้เราจะพาคุณไปสำรวจเครื่องชั่งน้ำหนัก ยี่ห้อไหนดีที่วางขายในท้องตลาดจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือกัน 

พร้อมสาระดีๆให้อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลที่ดีที่สุด 

เครื่องชั่งน้ำหนัก ยี่ห้อไหนดี ALLWELL GBF-1719-Aเครื่องชั่งน้ำหนัก วัดไขมัน: Allwell GBF-1719-A
ซื้อได้ที่ Lazada , Shopee
Etekcity EB4074Cเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลธรรมดา: Etekcity EB4074C
ซื้อได้ที่ Lazada , Shopee

รีวิวเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลยี่ห้อไหนดีทั้ง 8 ตัวที่ดีที่สุด 

1.Allwell รุ่น GBF-1719-A

เครื่องชั่งน้ำหนัก ยี่ห้อไหนดี ALLWELL GBF-1719-A
  • น้ำหนักสูงสุดที่รองรับ: 180 กก.
  • ขนาด: 30x30x2.39 ซม.
  • หน่วยที่รองรับ: กก./lb
  • ประเภทถ่านที่ใช้:  AAA 3 ก้อน 
  • ประกัน: 1 ปี 

เครื่องชั่งน้ำหนัก Allwell GBF-1719-A นี้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องการเครื่องชั่งน้ำหนัก วัดไขมันและมวลกาย ใช้งานง่าย แถมไม่ต้องใช้แอปพลิเคชั่น พร้อมแสดงการประมวลผลของค่าที่ได้ 

ผ่านหน้าจอดิจิตอล LCD ที่มีตัวหนังสือสีขาวขนาดใหญ่ ประกอบกับตัวเครื่องเป็นแท่นสีดำ ยิ่งทำให้สามารถมองเห็นตัวเลขได้ชัดแจ๋ว จึงเหมาะกับสมาชิกทุกวัยในบ้าน 

ใช้งานครั้งแรกจำเป็นต้องตั้งค่าก่อนเริ่มใช้งานนิดหน่อย ผ่านปุ่ม 3 ปุ่ม ได้แก่ปุ่มเพิ่ม/ลด และปุ่มกดยืนยัน(Set) ได้แก่ ลำดับผู้ที่ใช้งาน, เพศ (มีตัวเลือกนักกีฬา), ส่วนสูง, อายุ เพียงเท่านี้ จากนั้นตัวระบบก็จะบอกให้เราขึ้นไปยืนบนแท่น 

รอไม่ถึงนาทีมันก็แสดงผลวัดเป็นอย่างๆ ผ่านสัญลักษณ์รูปภาพหรือตัวอักษรย่อของค่าที่เครื่องสามารถประเมินได้  ได้แก่ น้ำหนัก, ค่า BMI, %ไขมัน, %กล้ามเนื้อ, %มวลกระดูกและ %ของน้ำในร่างกาย ซึ่งวัดได้ครอบคลุมครบครัน

ตรงการตั้งค่าลำดับผู้ใช้งาน นั่นแปลว่ามันสามารถบันทึกข้อมูลของคนนั้นได้โดยอัตโนมัติ และบันทึกได้มากถึง 8 คนเลยทีเดียวค่ะ หากคนต่อไปต้องการใช้ตอนตั้งค่าลำดับผู้ใช้อย่าลืมกดเลือกลำดับอื่นๆหล่ะ 

ด้วยคุณสมบัติที่เราได้บอกไปทั้งหมดทำให้ Allwell GBF-1719-A  เป็นตัวเลือกแรกสุดที่อยากแนะนำให้กับคุณได้รู้จัก 

จุดเด่น:

  • หน้าจอแสดงผลมองเห็นได้ชัดเจน 
  • ขั้นตอนการใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน
  • อ่านผลได้ครอบคลุมหลายอย่าง  
  • เพลทแผ่นกระจกนิรภัยเพิ่มความแข็งแรง
  • บันทึกผู้ใช้ได้ 

จุดด้อย:

  • ไม่มีแอปพลิเคชั่นให้ใช้งานเพื่อเข้าถึงข้อมูลย้อนหลัง 

2.Etekcity รุ่น EB4074C

Etekcity EB4074C
  • น้ำหนักสูงสุดที่รองรับ: 180 กก.
  • ขนาด: 30.3×30.3×2.4  ซม.
  • หน่วยที่รองรับ: กก./lb
  • ประเภทถ่านที่ใช้: AAA 2 ก้อน 
  • ประกัน: 2 ปี 

ถ้าเป็นเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลทั่วไปที่เราชอบสุดๆเลยจาก Etekcity ในรุ่น EB4074C มีดีไซน์มินิมอลๆ โดดเด่นที่ทั้งแพลตฟอร์มทำจากกระจกนิรภัยหนา 6 ซม. สีโปร่งใส สามารถมองเห็นทะลุได้ กลมกลืนเข้ากับทุกๆมุมของบ้าน 

แต่สิ่งสำคัญคือมีหน้าจอแสดงผลพร้อมแสงแบล็คไลท์สีฟ้า ช่วยทำให้มองเห็นตัวเลขบนหน้าจอได้ชัดเจนแม้ว่าจะอยู่ในที่มืด เพราะในเครื่องชั่งน้ำหนักมาตรฐานหลายๆรุ่นไม่ค่อยมีตัวนี้ ทำให้ถูกใจมากที่สุด 

ประกอบกับเซนเซอร์ทั้ง 4 มุมทำให้สามารถวัดค่าน้ำหนักของคุณได้ไม่จำเป็นต้องยืนตรงกลางเป๊ะๆ ที่สำคัญรับประกันยาวนานด้วย แนะนำเลยถ้าใครอยากได้เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลดีๆสักตัวไว้ใช้กับที่บ้าน 

จุดเด่น:

  • เครื่องชั่งน้ำหนักมาตรฐาน
  • เรียบง่าย
  • เพลทแผ่นกระจกนิรภัยเพิ่มความแข็งแรงทั้งตัวเครื่อง
  • มีระบบเซนเซอร์ทั้ง 4 มุม 
  • มีไฟบนหน้าจอทำให้อ่านค่าได้ง่ายในที่มืด

จุดด้อย:

  • อ่านค่าได้เฉพาะน้ำหนักตัว 

3.Tanita รุ่น Build Pack BC-G11

TANITA Build Pack BC-G11-scaled
  • น้ำหนักสูงสุดที่รองรับ: 150 กก.
  • ขนาด: 28.4×28.4×3.9 ซม.
  • หน่วยที่รองรับ: กก./lb
  • ประเภทถ่านที่ใช้: AA 4 ก้อน 
  • ประกัน: 3 ปี 

เครื่องชั่งน้ำหนักจากทานิต้าอีกตัวที่เราคิดว่ามันน่าจะตอบโจทย์สำหรับคนที่กำลังมองหาเครื่องชั่งน้ำหนักและวัดองค์ประกอบของร่างกายได้ โดย Tanita รุ่น Build Pack BC-G11 เป็นอีกตัวเลือกที่แนะนำค่ะ แต่ตัวเครื่องชั่งน้ำหนักจะหนามากกว่าเครื่องชั่งน้ำหนักทั่วๆไปที่เราเห็น  อาจไม่ถูกใจใครที่ชอบดีไซน์เพรียวๆ 

เพราะน้ำหนักอย่างเดียวไม่สามารถระบุวิเคราะห์และติดตามกายภาพของคุณได้ทั้งหมด การวัดองค์ประกอบทางกายเพิ่มก็จะช่วยทำให้เราสามารถปฎิบัติได้อย่างเหมาะสมมากกว่า ซึ่งเจ้าเครื่องนี้สามารถวัดมวลกล้ามเนื้อ, %ไขมัน , วัดสัดส่วนของไขมันและกล้ามเนื้อ 

ตอนใช้งานครั้งแรกจะต้องมีการตั้งวันเวลาด้วย อีกยี่ห้อที่เราได้รีวิวไปไม่มีส่วนนี้ แต่พอได้เริ่มตั้งค่าก็ใส่ข้อมูลเหมือนกันเลยคือ เพศ(เลือกโหมดนักกีฬาได้), อายุ และส่วนสูง ปุ่มกดการตั้งค่าเขาก็แสดงสัญลักษณ์และอักษรย่อชัดเจน ไม่ได้ยากอย่างที่คิดไว้ 

ไม่ต้องใช้แอปพลิเคชั่นในการอ่านรายละเอียดผลค่ะ เพราะมันจะปรากฏบนหน้าจอแสดงผล LCD เลย แต่หน้าจอมันจะยากต่อการอ่านถ้าตั้งในมุมมืด อย่างไรก็ตามมันสามารถบันทึกข้อมูลผู้ใช้งานได้ 5 คน ถือว่าเพียงพอสำหรับคนที่จะเอาไปใช้กับครอบครัวได้ 

จากยี่ห้อทานิต้าเป็นยี่ห้อที่คุ้นหูในเครื่องชั่งน้ำหนักเป็นอย่างดี จึงทำให้มั่นใจในคุณภาพและความเที่ยงตรงของตาชั่งแน่นอนค่ะ 

จุดเด่น:

  • อ่านผลได้ครอบคลุมหลายอย่าง  
  • บันทึกผู้ใช้ได้ 
  • แข็งแรงทนทาน

จุดด้อย:

  • ไม่มีแอปพลิเคชั่นให้ใช้งานเพื่อเข้าถึงข้อมูลย้อนหลัง 
  • ยากต่อการอ่านหากใช้ในที่มุมอับแสง 

4.Tanita รุ่น HD-378

TANITA HD-378
  • น้ำหนักสูงสุดที่รองรับ: 150 กก.
  • ขนาด: 30x32x2.2 ซม.
  • หน่วยที่รองรับ: กก./lb
  • ประเภทถ่านที่ใช้: Lithium CR2032 1ก้อน  
  • ประกัน: 3 ปี 

หากคุณกำลังมองหาเครื่องชั่งน้ำหนักมาตรฐานแบบทั่วๆไป ไม่ได้ต้องการฟังก์ชั่นพิเศษอะไร เน้นสำหรับการชั่งน้ำหนักตัวโดยเฉพาะ ยี่ห้อทานิต้า จากประเทศญี่ปุ่น 

คือตัวเลือกที่คนส่วนใหญ่มั่นใจในมาตรฐาน และ Tanita HD-378 เป็นเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลที่ประมวลผลน้ำหนักอย่างแม่นยำ ทศนิยม 1 ตำแหน่ง มีความน่าเชื่อถือ อีกทั้งยังรับประกันยาวๆเลยค่ะ 

ด้วยดีไซน์เรียบบางเฉียบ แท่นชั่งน้ำหนักกว้าง ผิวเรียบสบายเท้าด้วยแผ่นกระจกนิรภัย ทนทาน ไม่แตกง่าย มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 3 ซม. ขนาดใหญ่จุใจดี แต่ถ้ามีไฟบนหน้าจอจะช่วยให้อ่านง่ายมากขึ้น 

จุดเด่น:

  • เครื่องชั่งน้ำหนักมาตรฐาน
  • เรียบง่าย
  • เพลทแผ่นกระจกนิรภัยเพิ่มความแข็งแรง

จุดด้อย:

  • ยากต่อการอ่านหากใช้ในที่มุมอับแสง 
  • อ่านค่าได้เฉพาะน้ำหนักตัว 

5.Omron รุ่น HBF-222T

OMRON HBF-222T
  • น้ำหนักสูงสุดที่รองรับ: 150 กก.
  • ขนาด: 32x32x4.5 ซม.
  • หน่วยที่รองรับ: กก./lb
  • ประเภทถ่านที่ใช้: AAA 4 ก้อน
  • ประกัน: 2 ปี 

เครื่องชั่งน้ำหนักยี่ห้อไหนดีที่สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่น Omron ได้อีกตัวที่สามารถบอกความแม่นยำและสม่ำเสมอของค่าที่อ่านได้ โดย Omron รุ่น HBF-222T นี้สามารถวัดค่ามวลร่างกายได้หลากหลายอย่าง ได้แก่ %กล้ามเนื้อ, %ไขมัน, ไขมันในช่องท้อง, ไขมันใต้ผิวหนัง, อัตราการเผาผลาญขณะอยู่เฉย,ค่าดัชนีมวลกาย

มีปุ่มตั้งค่าการใช้งานบนตัวเครื่อง พร้อมกับสามารถอ่านค่าได้บนตัวเครื่องได้เลย แต่ถ้าใครที่ต้องการดูรายละเอียดหรือบันทึกข้อมูล เพียงแค่เชื่อมต่อบลูทูธเพื่อเข้าถึงข้อมูลและกราฟได้ สามารถบันทึกข้อมูลได้ 4 คน เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กที่ต้องการวัดเพื่อติดตามสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

ใครที่อยากได้เครื่องชั่งน้ำหนักที่ใช้แอปพลิเคชั่นได้ ใช้งานง่าย สามารถตรวจวัดค่าได้หลากหลาย เจ้าตัวนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยหน้าเลยค่ะ 

จุดเด่น:

  • ขั้นตอนการใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน
  • อ่านผลได้ครอบคลุมหลายอย่าง  
  • เพลทแผ่นกระจกนิรภัยเพิ่มความแข็งแรง
  • บันทึกผู้ใช้ได้ 
  • จะใช้แอปพลิเคชั่นหรือไม่ใช้ก็ได้ตามความต้องการ 

จุดด้อย:

  • ยากต่อการอ่านหากใช้ในที่มุมอับแสง 

6.Beurer รุ่น BF 400

Beurer BF 400
  • น้ำหนักสูงสุดที่รองรับ: 200 กก.
  • ขนาด: 31x31x2.8 ซม.
  • หน่วยที่รองรับ: กก./lb
  • ประเภทถ่านที่ใช้: AAA 3 ก้อน 
  • ประกัน: 5 ปี 

อีกหนึ่งเครื่องชั่งน้ำหนักที่จะช่วยวัดองค์ประกอบของร่างกายที่สำคัญๆ ได้แก่ วัดมวลไขมัน, กล้ามเนื้อ,  ปริมาณน้ำในร่างกายและมวลกระดูก พร้อมคำนวณดัชนี BMI ให้คุณได้ในตัว จุดเด่นของเจ้าเครื่องนี้คือมันสามารถรองรับน้ำหนักได้สูงสุด 200 กก. ครอบคลุมได้มากยิ่งขึ้น 

ตั้งค่าการใช้งานง่ายๆผ่านปุ่มบนตัวเครื่องพร้อมอ่านค่าบนจอดิจิตอลขนาดใหญ่ถึง 3.3 ซม.ตัวเลขมีแสงไฟสีขาวขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน เป็นคุณสมบัติที่อย่ามองข้าม สามารถบันทึกข้อมูลผู้ใช้งานได้มากถึง 10 คน

นอกจากนั้นดีไซน์ของมันก็กว้าง มีกระจกนิรภัยหนา 8 มม. เพิ่มความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นเพื่อที่จะรองรับน้ำหนักได้ นับว่าเป็นเครื่องชั่งน้ำหนัก ยี่ห้อไหนดีอีกตัวที่ควรรู้จักอีกตัวค่ะ 

จุดเด่น:

  • หน้าจอแสดงผลมองเห็นได้ชัดเจน 
  • ขั้นตอนการใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน
  • อ่านผลได้ครอบคลุมหลายอย่าง  
  • เพลทแผ่นกระจกนิรภัยเพิ่มความแข็งแรง
  • บันทึกผู้ใช้ได้ 
  • เพลทกว้างและรองรับน้ำหนักได้มาก

จุดด้อย:

  • ยากต่อการอ่านหากใช้ในที่มุมอับแสง 

7.Sharper รุ่น HD-9380  

SHAPER HD-9380
  • น้ำหนักสูงสุดที่รองรับ: 180 กก.
  • ขนาด: 30x30x2.2 ซม.
  • หน่วยที่รองรับ: กก./lb
  • ประเภทถ่านที่ใช้: Lithium CR2032 1ก้อน 
  • ประกัน: 1 ปี 

Sharper HD-9380 เป็นไอเดียสำหรับคนที่กำลังมองหาเครื่องชั่งน้ำหนัก ยี่ห้อไหนดี สำหรับชั่งน้ำหนักโดยเฉพาะ เน้นความเรียบง่าย สำหรับใช้ที่บ้าน และยังมีราคาหลักร้อยสำหรับใครที่ไม่อยากจ่ายมากเกินไป ตัวนี้น่าจะถูกใจเลยแหละ 

ตาชั่งมาตรฐานเบสิคๆ แต่มีตัวเครื่องทำจากกระจกนิรภัยหนา 6 มม. ช่วยเพิ่มเเข็งแรงทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักได้เยอะ มากถึง 180 กก. มีหน้าจอ LCD แสดงผล ขนาดเกือบ 3 ซม.

ตรงนี้ขอตติอย่างนึงคือหน้าจอมันมืด บวกกับสีของตัวหนังสือสีดำ ทำให้ดูยาก โดยเฉพาะในมุมอับหรือมุมมืด แต่โชคดีที่ตัวหนังสือมีขนาดใหญ่พอสมควร ทำให้ยังสามารถอ่านได้ระดับนึง 

จุดเด่น:

  • เครื่องชั่งน้ำหนักมาตรฐาน
  • เรียบง่าย
  • เพลทแผ่นกระจกนิรภัยเพิ่มความแข็งแรง

จุดด้อย:

  • ยากต่อการอ่านหากใช้ในที่มุมอับแสง 
  • อ่านค่าได้เฉพาะน้ำหนักตัว 
  • ไม่มีแอปพลิเคชั่นให้ใช้งานเพื่อเข้าถึงข้อมูลย้อนหลัง 

8.Xiaomi รุ่น Smart Scale 2

Xiaomi Smart Scale 2
  • น้ำหนักสูงสุดที่รองรับ: 150 กก.
  • ขนาด: 28x28x2.2 ซม.
  • หน่วยที่รองรับ: กก./lb
  • ประเภทถ่านที่ใช้: AAA 3 ก้อน 
  • ประกัน: 1 เดือน 

ใครที่ชอบเรื่องของ Smart Home เราขอแนะนำ Xiaomi Smart Scale 2 ที่สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่น Mi Fit ในการอ่านบันทึกผล ใส่ข้อมูลเพิ่มอย่างเช่น ความสูง อายุ สำหรับวัดค่า BMI เพื่อช่วยให้คำนวณน้ำหนักมาตรฐานของคุณเอง และยังบันทึกข้อมูลผู้ใช้ได้มากถึง 16 คน 

ซึ่งการเชื่อมต่อระหว่างแอปกับเครื่องชั่งอาศัยบลูทูธ 5.0 และตัวแอปจะต้องเป็นระบบ IOS 9.0 และ Android ขึ้นไป ถ้าใครไม่ชอบอะไรที่ฟังยุ่งยากแบบนี้อาจไม่ตอบโจทย์ 

ข่าวดีคือถ้าคุณจะเอาไว้ชั่งน้ำหนักเฉยๆโดยไม่ใช้แอปก็ได้นะคะ เพียงแต่จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่บอกไปได้เท่านั้นเอง สำหรับเราชอบความมินิมอลและดูไฮเทคแต่ราคาหลักร้อยของมันมากๆของมันนะ 

จุดเด่นของมันตรงที่หน้าจอซ่อนตัวเลขบนเพลท คือตัวเลขจะปรากฏก็ต่อเมื่อเราขึ้นไปเหยียบแท่นเพลทค่ะ ตัวเลขมีไฟสีขาว ตัวใหญ่มองเห็นได้ง่ายดี ถ้าใครที่อยากได้ชอบฟีเจอร์แบบนี้ คุ้มค่า น่าใช้งานมากๆค่ะ 

เป็นเครื่องชั่งน้ำหนักทั่วๆไป ที่นอกจากจะชั่งน้ำหนักของคนได้แล้ว มันยังเอาไปชั่งสิ่งของได้ด้วยนะ โดยสามารถรองรับน้ำหนักต่ำสุดที่ 100 ก. 

สรุปแล้วมันเป็นเครื่องชั่งน้ำหนักเบสิคๆที่ใช้ได้ระดับที่พึงพอใจ มีความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเม็ดเงินที่เสียไป 

จุดเด่น:

  • บันทึกผู้ใช้ได้ 
  • หน้าจอแสดงผลมองเห็นได้ชัดเจนในที่มืด
  • เพลทแผ่นกระจกนิรภัยเพิ่มความแข็งแรง
  • สามารถเลือกใช้หรือไม่ใช้แอปก็ได้ ถ้าต้องการประมวลผล BMI และบันทึกข้อมูลต้องใช้แอป
  • ชั่งน้ำหนักคนและสิ่งของได้ 

จุดด้อย:

  • อ่านค่าได้เฉพาะน้ำหนักตัว 
  • ช่วงแรกๆจะต้องชั่งหลายรอบถึงจะคงที่ 
  • ต้องรอการเชื่อมต่อบลูทูธ 
  • ไม่สามารถอ่านค่าองค์ประกอบของร่างกายได้ 

จำเป็นที่จะต้องมีเครื่องชั่งน้ำหนักไว้ติดบ้านไหม?

ถ้าคุณวางแผนหรือกำลังทำโปรแกรมออกกำลังกาย ตั้งเป้าหมายเพื่อสุขภาพอย่างลดน้ำหนักและต้องการติดตาม ประเมินผลอยู่เป็นประจำ การมีเครื่องชั่งน้ำหนักไว้ติดบ้านก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและยังช่วยทำให้คุณอยู่ในเป้าหมายที่คุณตั้งใจไว้ นอกจากนั้นแล้วสมาชิกในบ้านยังใช้ด้วยกันได้ด้วย 

ในทางกลับกันถ้าคุณเข้าถึงฟิตเนสที่มีเครื่องชั่งน้ำหนักดีๆและทันสมัย หรือพอใจที่จะใช้เครื่องชั่งน้ำหนักตามที่สาธารณะ การมีเครื่องชั่งน้ำหนักติดบ้านก็ไม่ได้สำคัญมาก 

เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลดียังไง?

เครื่องชั่งน้ำหน้ำหนักดิจิตอล เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเครื่องชั่งน้ำหนักแบบอนาล็อก เครื่องชั่งแบบเข็ม หรือที่เราเรียกว่าเครื่องชั่งสปริงแน่นอนอยู่แล้ว เพราะนอกจากจะมีดีไซน์สวยทันสมัยแล้ว ยังให้ค่าที่แม่นยำกว่า ง่ายต่อการอ่านเพียงแค่ขึ้นเหยียบบนเพลท 

ตัวเครื่องจะใช้ระบบเซนเซอร์ในการวัดค่า ออกมาเป็นตัวเลขน้ำหนักหรือค่ามวลร่างกายต่างๆ แสดงบนหน้าจอดิจิตอล ส่วนใหญ่สามารถปรับหน่วยให้เป็นปอนด์(lb)ได้  และยังบันทึกข้อมูลของสมาชิกผู้ใช้งานได้อีกด้วย

เพียงแค่ใส่ถ่านก็ใช้งานได้เลย กรณีเครื่องชั่งน้ำหนักที่ใช้งานด้วยแอปพลิเคชั่นจะต้องทำการเชื่อมต่อบลูทูธหรือ Wifi เพื่ออ่านข้อมูลอื่นๆ จึงอาจะไม่ตอบโจทย์สำหรับคนบางกลุ่ม เช่นผู้สูงอายุและเด็กที่ยากต่อการเข้าถึงแอป

ในขณะที่เครื่องชั่งแบบเข็มจะใช้กลไกของสปริง ไม่ต้องใช้ถ่าน แบบนี้เด็กๆอาจจะชอบมากกว่า แต่มีข้อจำกัดคือไม่สามารถรองรับน้ำหนักที่เยอะเกินไป ใช้ชั่งน้ำหนักได้เพียงอย่างเดียว  

เราได้ลองเปรียบเทียบเครื่องชั่งน้ำหนักแบบอนาล็อกทั้งหมด 5 ตัวพบว่ารองรับได้เพียงประมาณ 130 กก. ในขณะที่แบบดิจิตอลสามารถรองรับได้มากถึง 200 กก.เลยทีเดียว

ถ้าให้ถามเราว่าระหว่างซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักแบบเข็มกับแบบดิจิตอลอันไหนดีกว่ากัน? ด้วยคุณสมบัติของเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลที่เราได้กล่าวไปข้างบน เราบอกได้เลยว่าขอซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลมากกว่า เนื่องจาก แม่นกว่า ดูง่ายด้วย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติพิเศษเพียบ 

สรุปทำไมถึงควรซื้อเครื่องชั่งแบบดิจิตอลมากกว่าเครื่องชั่งสปริง:

  • ดีไซน์สวย มีความทันสมัย
  • แม่นยำกว่า
  • ตัวเลขอ่านง่ายกว่า 
  • บางรุ่นวัดมวลร่างกายได้ 
  • บางรุ่นสามารถใช้อ่านค่าในแอปพลิเคชั่นได้ 
  • ปรับเปลี่ยนหน่วยวัดได้ 
  • บันทึกข้อมูลของผู้ใช้ได้ 

เลือกซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลยังไงดี?

เราเข้าใจดีว่าการเลือกซื้อเครื่องชั่งน้ำหนัก ยี่ห้อไหนดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เรามีหลักการเลือกซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักแบบเข้าใจได้ใน 2 ขั้นตอนมาให้กับคุณได้ดูกัน แล้วสามารถนำไปตัดสินใจได้เอง 

เลือกจากเป้าหมายฟิตเนส 

ใช่แล้ว ! เลือกจากเป้าหมายทางฟิตเนส หรือความต้องการทางสุขภาพของตัวเอง โดย..

เป้าหมายในการลดน้ำหนัก/เพิ่มน้ำหนัก: หรือแค่ชั่งน้ำหนักทั่วไป ใช้เครื่องน้ำหนัก ยี่ห้อไหนดีแบบดิจิตอลทั่วไป ก็ตอบโจทย์แล้ว! 

เครื่องชั่งน้ำหนักทั่วไป(Digital Weight Scale): จะบอกแค่ตัวเลขของน้ำหนักที่วัดได้จากการชั่งบนแท่น/เพลท 

เป้าหมายในการชั่งน้ำหนักพร้อมกับวัดมวลร่างกาย: เพื่อเป็นแนวทางในการดูข้อมูลเชิงลึกของสุขภาพมากยิ่งขึ้น เพราะบางทีเราก็ไม่ได้ต้องการลดน้ำหนัก แต่ต้องการลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ  เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะตอบโจทย์กว่า 

เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ วัดมวลกาย(Smart Scale): สามารถประเมินคร่าวๆของค่ามวลร่างกายหรือองค์ประกอบของร่างกายได้ เช่น เปอเซนต์และมวลของไขมัน/กล้ามเนื้อ ความหนาแน่นของกระดูก เปอเซนต์ของน้ำในร่างกาย เป็นต้น 

เลือกจากความง่ายในการใช้งาน 

เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลควรมีหน้าจออ่านค่าตัวเลขที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เครื่องชั่งน้ำหนัก ยี่ห้อไหนดีที่สามารถวัดองค์ประกอบมวลกาย จะแบ่งการใช้งานอยู่ 2 แบบหลักๆ 

คือแบบกดปุ่มตั้งค่าอ่านตัวเลขบนหน้าจอแสดงผลได้เลย และอีกแบบจะใช้งานและอ่านผลบนแอปพลิเคชั่น และตั้งค่าบนปุ่มกดตัวเครื่องได้เลย ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน ทั้งสองแบบต่างมีข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับมุมมองของคนใช้งาน

เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ วัดไขมันได้จริงหรือเปล่า?

เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ หรือเครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย  มวลกล้ามเนื้อและไขมัน เป็นอุปกรณ์หนึ่งที่จะทำให้คุณเข้าถึงการวัดประเมินผลของไขมันได้ง่ายๆ 

โดยระบบเซนเซอร์หรือกระเเสไฟฟ้าอ่อนๆจากเพลทจะผ่านเข้าสู่ร่างกายเพื่อวัดค่าความต้านทานของไขมัน แล้วแปลผลทั้งผ่านตัวเครื่องชั่งหรือกรณีที่มีแอปก็จะแปลผลผ่านแอป 

ทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำในร่างกายว่ามีมากน้อยแค่ไหน ถ้าร่างกายขาดน้ำก็จะทำให้แปลผลว่ามีเปอเซนต์ของไขมันที่สูงมากว่าค่าปกติที่มันสามารถอ่านได้(หรือบอกว่าเราอ้วนขึ้นนั่นเอง)  จึงไม่ควรวัดตอนตื่นนอนทันที รวมไปถึงหลังออกกำลังกายเสร็จใหม่ๆ 

ในทางตรงกันข้ามถ้าดื่มน้ำมากเกินไปก่อนวัด ก็จะทำให้เครื่องอ่านค่าเปอเซอต์ได้ต่ำกว่าปกติ (ผอมเพรียว) ควรดื่มน้ำให้เพียงพอสักระยะก่อนวัด 

คุณจะเห็นได้ว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงโดดไปมาได้ อีกทั้งปัจจัยอื่นๆ อย่างเพศ อายุ รูปร่างส่วนสูง รวมถึงไลฟ์สไตล์ในการออกกำลังกายด้วย 

เราสรุปได้ว่าเครื่องชั่งน้ำหนักวัดมวลไขมันได้จริงๆเพียงแต่จะไม่แม่นยำ ช่วยทำให้ได้ข้อมูลที่เพียงพอต่อการนำไปเป็นแนวทางในการดูแลรักษาร่างกาย เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ 

ปัจจัยที่ทำให้เครื่องชั่งน้ำหนักคลาดเคลื่อน 

หากคุณตัดสินใจได้แล้วว่า ต้องการเครื่องชั่งน้ำหนัก ยี่ห้อไหนดีสักตัว ไว้ติดบ้านแล้ว ข้างล่างนี้เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เครื่องชั่งน้ำหนักวัดผลได้คาดเคลื่อน ซึ่งเป็นค่าที่ไม่ได้ทำให้ห่างมากเกินไป อีกทั้งยังช่วยเป็นข้อคิดและวิธีการใช้เครื่องชั่งน้ำหนักที่เหมาะสมด้วย 

  • ตำแหน่งการจัดวาง: ควรวางบนพื้นเรียบ ไม่ขรุขระอย่างพรม และไม่เปลี่ยนตำแหน่งบ่อยๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นไปในทางเดียวกันกับการวัดครั้งก่อนหน้า 
  • การเคลื่อนตัว: ยืนตัวตรงนิ่ง กระจายน้ำหนักลงบนฝ่าเท้าทั้งสองข้างเท่าๆกัน ไม่ขยับเขื้อน เพราะนอกจากจะทำให้เครื่องอ่านค่าช้าแล้วยังทำให้ค่าไม่คงที่ด้วย  
  • น้ำหนักของเสื้อผ้า: การวัดทุกครั้งอาจมีความคาดเคลื่อน ซึ่งอาจมาจากเสื้อผ้าหรือรองเท้าที่สวมใส่ ดังนั้นอย่าตกใจไปนะ 
  • เวลาในการชั่งน้ำหนัก: หากใครเคยชั่งน้ำหนักทั้งเช้าและเย็นของวันจะพบว่าน้ำหนักไม่เท่าเดิม! ซึ่งเป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะในระหว่างวันเราก็ได้ดื่มและกินอาหารเข้าไปนั่นเองค่ะ โดยเวลาที่เหมาะสมในการชั่งน้ำหนักคือ ตอนช่วงเช้า จะได้ค่าที่แม่นยำที่สุด เพราะร่างกายได้ย่อยอาหารของวันก่อนไปในตอนกลางคืนแล้ว สิ่งสำคัญสุดคือความสม่ำเสมอของเวลาที่ชั่ง อย่างเช่น ชั่งน้ำหนักตอนเช้าก่อนทานอาหาร เป็นต้น 

นอกจากปัจจัยที่ทำให้เครื่องชั่งน้ำหนักมีความคาดเคลื่อนตามที่เราได้บอกไปข้างบนแล้ว การใช้เครื่องชั่งน้ำหนักไม่จำเป็นที่จะต้องชั่งหรือวัดผลทุกวัน เนื่องจากค่าที่ได้มีความใกล้เคียงกัน(หากชั่งเวลาเดิม) จากหัวข้อกรณีมวลร่างกายอย่างเช่นไขมัน ปริมาณน้ำในร่างกายส่งผลต่อการอ่านค่าด้วย 

แถมยังทำให้หมกหมุ่นมากเกินไป ประกอบกับอย่าเชื่อข้อมูลทุกอย่าง 100% ให้ชั่งใจเอาไว้ก่อน พอเอาไว้เป็นแนวทางในการประเมินผลเท่านั้น

สรุป

เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลทั้งแบบชั่งน้ำหนักธรรมดา กับวัดมวลร่างกาย เป็นประโยชน์ถ้าต้องการติดตาม ประเมินผลของ fitness และสุขภาพgoal เพียงพอต่อการแทรคในชีวิตประจำวัน แต่อย่าลืมว่ามันไม่ได้บอกรายละเอียดความเป็นจริงทั้งหมด 100% และมักมีการคาดเคลื่อน ดังนั้นจึงอยากให้คุณใช้งานอย่างมีวิจรณญาณในการใช้งานกันด้วยนะ

มาถึงตรงนี้แล้วเครื่องชั่งน้ำหนัก ยี่ห้อไหนดีที่สุด เราว่า Allwell รุ่น GBF-1719-A คือตัวเลือกที่คุ้มค่ามากที่สุดแล้วในตอนนี้