บทความนี้เราได้นำ 10 อันดับเครื่องบดกาแฟยี่ห้อไหนดี มารีวิวให้คุณผู้อ่านได้อย่างจุใจ โดยเฉพาะบ้านไหนที่กำลังมองหา เครื่องบดกาแฟไว้ที่บ้านแต่ไม่รู้จะเลือก เครื่องบดกาแฟยี่ห้อไหนดี
โดยเครื่องบดกาแฟที่เรานำมาเสนอ มีทั้งแบบมือหมุนและแบบไฟฟ้า ยี่ห้อที่ฮิตและมั่นใจในคุณภาพและการทำงานที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งวิธีการเลือกซื้อเครื่องบดกาแฟ ไปอ่านกันเลยค่า
ภาพรวมเครื่องบดกาแฟที่โดนใจเรา
![]() | เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุนที่ดีที่สุด: Timemore รุ่น Grinder Chestnut C2 ซื้อได้ที่ Lazada , Shopee |
![]() | เครื่องบดกาแฟไฟฟ้าที่ดีที่สุด: BUONO รุ่น BUO-12CG03 ซื้อได้ที่ Lazada , Shopee |
10 อันดับเครื่องบดกาแฟยี่ห้อไหนดี ที่เป็นที่นิยมของปี 2023
1.Timemore รุ่น Grinder Chestnut C2

น้ำหนัก(ก.): 450 |
ความจุของโถผงบด(ก.): 25 |
ประเภทฟันบด: Conical Burr Grinder |
สำหรับมือใหม่ที่ต้องการลงทุนซื้อเครื่องบดกาแฟยี่ห้อไหนดี สักเครื่องTimemore เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน รุ่น C2 เป็นตัวเลือกอันดับแรกที่เราแนะนำค่ะ
เนื่องจากราคาไม่แพงเกินไปสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นและคุณภาพดี หลายๆผู้ใช้ให้ความเชื่อมั่นกับยี่ห้อนี้เป็นอย่างดี
ตัวบอดี้ขนาดเล็กกระทัดรัด 14.7 ซม.ทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ ทนทานและทนต่อความชื้นได้เป็นอย่างดี มีดีเทลที่ทำให้จับใช้งานง่ายไม่หลุดมือ
ส่วนมือหมุนทำจากพลาสติก โปร่งใสแข็งแรง มีลูกปืนที่ช่วยยึดการทำงานในขณะบด ตัวบดทำจากเหล็กประเภทที่คม ทนทาน มีอายุการใช้งานมากกว่าเหล็กทั่วไป
สามารถปรับความละเอียดได้หลากหลาย ตั้งแต่ระดับหยาบไปจนถึงละเอียด โดยภาพรวมแล้วเหมาะกับการบดแบบหยาบ ใช้ทำกาแฟ Pour over หรือที่เราเรียกติดปากกันว่ากาแฟดริปมากกว่าค่ะ
ระยะเวลาการรับประกัน: 1 ปี
สิ่งที่ชอบ:
- ใบมีดแบบ Burr ทำจากเหล็ก
- แบบมือหมุน ขนาดเล็กกระทัดรัด พกพาง่าย
- มีมือจับที่ใช้งานสะดวก
- พกพาง่าย
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ใช้งานได้ปริมาณจำกัด
- เหมาะกับการบดแบบหยาบมากกว่า
2.เครื่องบดกาแฟ BUONO รุ่น BUO-12CG03

น้ำหนัก(ก.): ไม่ระบุ |
ความจุของโถผงบด(ก.): 100 |
ประเภทฟันบด: Conical Burr Grinder |
สำหรับมือใหม่หรือบ้านไหนที่ต้องการเครื่องบดกาแฟที่ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว และมีระดับการบดที่หลากหลายเราแนะนำเครื่องบดกาแฟไฟฟ้าตัวนี้เลย
เพราะว่าเขาทำงานโดยใช้ระบบดิจิตอล กำลังไฟฟ้า 180 วัตต์ มาพร้อมหน้าจอ LED แสดงผลการทำงาน เป็นตัวเลือกที่ดีที่จะทำให้เช้าของคุณไม่ยุ่งยากก่อนออกไปทำงาน
โถใส่เมล็ดกาแฟจุได้ 275 ก.สีชา ช่วยป้องกันแสงแดดไม่ทำให้กาแฟของคุณเสียรสชาติ คุณอาจจะกังวลว่าเครื่องบดแบบไฟฟ้า
จะมีฟังก์ชั่นการทำงานที่ยุ่งยากซับซ้อนใช่ไหมคะ?แต่เปล่าเลย เขาถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมากๆเลยค่ะ
โดยหน้าจอสามารถปรับการตั้งค่าบดกาแฟต่อแก้วได้ สูงสุดถึง 5 แก้ว และยังตั้งเวลาการบดต่อแก้วได้สูงสุดถึง 10 วินาที
ปรับละดับความละเอียดของเมล็ดกาแฟได้ถึง 31 ระดับตั้งแต่แบบหยาบไปจนถึงละเอียด โดยการหมุนบริเวณ
โถบดมีตัวล๊อคแน่นหนาป้องกันการเคลื่อนขณะทำงาน และยังมาพร้อมกับสายปลั๊กยาว 80 ซม. ไม่สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ ต้องปัดทำความสะอาดเท่านั้น
ระยะเวลาการรับประกัน: 1 ปี
สิ่งที่ชอบ:
- เครื่องบดไฟฟ้า ระบบดิจิตอลให้ความสะดวกสบายมากกว่า
- มีโถใส่เมล็ดที่ใส่ใจเรื่องของการป้องกันการเสียรสชาติของเมล็ดกาแฟ
- ทำงานได้ปริมาณมาก
- ปรับระดับความละเอียดได้หลากหลาย
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ล้างทำความสะอาดไม่ได้
3.De’Longhi รุ่น KG89

น้ำหนัก(ก.): 1.7 |
ความจุของโถผงบด(ก.): 120 |
ประเภทฟันบด: Burr Grinder |
เครื่องบดกาแฟไฟฟ้ากำลังไฟ 110 วัตต์ ที่โดดเด่นจากแบรนด์สัญชาติอิตาลี ขนาดเล็กไม่เปลืองพื้นที่ที่เหมาะกับการใช้งานในบ้านได้เป็นอย่างดี บอดี้สแตนเลส ดีไซน์สวยดูดี
สามารถบดกาแฟได้สูงสุด 12 แก้ว สามารถเลือกปรับได้ตามความหยาบ กลางหรือละเอียดก็ได้ เอาเป็นว่าสาย Espresso ต้องรักเลยแหละค่ะ
ใช้งานโดยการหมุนลูกบิดบริเวณด้านหน้าและด้านข้างของเครื่อง และยังมีระบบ Dual Safe หยุดการทำงานเมือมีชิ้นส่วนของตัวเครื่องถูกถอดออกไป ปลอดภัยต่อการใช้งาน
ชุดเฟืองบดที่ออกแบบมาพิเศษด้วยระบบ ใบจาน 2 ใบทำจากเซรามิคอย่างดี ช่วยรักษาอุณหภูมิและรสชาติของเมล็ดกาแฟ
ระยะเวลาการรับประกัน: 1 ปี
สิ่งที่ชอบ:
- ขนาดเล็ก กระทัดรัด
- เครื่องบดไฟฟ้าให้ความสะดวกสบายมากกว่า
- ทำงานได้ปริมาณมาก
- ปรับระดับความละเอียดได้หลากหลาย
- ใบมีดแบบ Burr ทำจากเซรามิค อายุการใช้งานนาน
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- จากประสบการณ์ส่วนตัวคิดว่าเสียงค่อนข้างดัง
4.Duchess รุ่น CG9100

น้ำหนัก(ก.): 1 |
ความจุของโถผงบด(ก.): ไม่ระบุ |
ประเภทฟันบด: Blade Grinder |
เครื่องบดไฟฟ้าแนะนำสำหรับมือใหม่ที่กำลังมองหาเครื่องบดกาแฟราคาไม่แพงและสามารถบดเมล็ดธัญพืชได้
พร้อมกับกำลังวัตต์ถึง 200 วัตต์ ความเร็ว 12,000 รอบต่อนาที บดเมล็ดเปลือกแข็งได้เป็นอย่างดี สามารถถอดล้างได้
ตัวบดเป็นใบมีดที่ทำจากสแตนเลส คม ตัวเครื่องมีส่วนผสมของพลาสสิกและสแตนเลส หนา ทนทาน ไม่ก๊องแก๊งแน่นอน ใช้งานง่ายๆเพียงกดปุ่มค้างตามระยะเวลาที่ต้องการได้เลย ดังนั้นความละเอียดจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการบดนั่นเองค่ะ
ระยะเวลาการรับประกัน: 1 ปี
สิ่งที่ชอบ:
- เครื่องบดไฟฟ้าให้ความสะดวกสบายมากกว่า
- บดธัญพืชอื่นๆนอกจากเมล็ดกาแฟได้
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ไม่ใช่ระบบอัตโนมัติ ทำให้เดาความละเอียดของเมล็ดกาแฟได้ไม่ดี
- แบ Blend จะบดไม่ละเอียดเท่าแบ Burr ในกรณีถ้าต้องการละเอียด
5.Shanben 600N

น้ำหนัก(ก.): 3.6 |
ความจุของโถผงบด(ก.): ไม่มีโถสำหรับผงบด |
ประเภทฟันบด: Flat Burr Grinder |
เครื่องบดกาแฟไฟฟ้าของ Shanben ที่เป็นที่รู้จักกันในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน เขามีตัวบดกาแฟที่ใช้งานได้ดีราคาสามารถจับต้องได้ เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการเครื่องบดกาแฟสำหรับไว้ใช้ในบ้าน
ตัวเฟืองบดทำจากโลหะเป็นแบบแบนแนวระนาบขนาด 60 มม. แข็งแรง ทนทานและยังทำให้ผงดออกมาละเอียดสม่ำเสมอ
และยังสามารถปรับระดับความละเอียดของผงได้ถึง 8 ระดับเหมาะกับการใช้ทำกาแฟหลายประเภท
โถเก็บเมล็ดจุได้ 1,000 กรัม สีใสช่วยให้มองเห็นเมล็ดในโถได้ง่าย ตัวเครื่องทำจากเหล็กชุบอะลูมิเนียม ทนทาน ทนต่อการกัดกร่อน ใช้งานและทำความสะอาดง่าย
มีฟิวส์สำรอง 2 อันช่วยรักษาความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี
ระยะเวลาการรับประกัน: 1 ปี
สิ่งที่ชอบ:
- ปรับระดับความละเอียดได้หลากหลาย
- โถเก็บเมล็ดกาแฟขนาดใหญ่
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ไม่มีโถใส่ผงเมล็ดเมื่อบดกาแฟเสร็จ
6.Timemore Slim Plus

น้ำหนัก(ก.): ไม่ระบุ |
ความจุของโถผงบด(ก.): 20 |
ประเภทฟันบด: Conical Burr Grinder |
เครื่องบดไฟฟ้าแบบมือหมุนอีกหนึ่งรุ่นที่เราแนะนำจากยี่ห้อ Timemore เพราะมีขนาดเล็ก ทนทาน ใช้งานง่าย
เหมาะกับการใช้งานกับประเภทกาแฟแบบ French Press และแบบดริปมากกว่า สาย Espresso ไม่แนะนำตัวนี้ค่ะ แต่ถ้าอยากได้เราแนะนำ Grinder Slim S ค่ะ
ตัวบดเป็นแบบ Burr ทำจาก Stainless Steel คม ช่วยลดเวลาในการหมุนให้ทำงานเร็วขึ้น ตัวบอดี้กว้าง 4.4 ซม. ทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ ดีไซน์จับง่าย
มีดีเทลลวดลายทำให้ไม่ลื่นมือ ตัวจับหมุนมีลูกปืนทำให้ไม่เคลื่อนย้ายไปมาขณะที่กำลังบด
ระยะเวลาการรับประกัน: 1 ปี
สิ่งที่ชอบ:
- แบบมือหมุนขนาดเล็ก พกพาสะดวก
- ใบมีดแบบ Burr
- มือจับจับง่าย ไม่ลื่นมือ
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ไม่เหมาะกับการบดละเอียดสักเท่าไหร่
7.Minimex รุ่น MCG3

น้ำหนัก(ก.): ไม่ระบุ |
ความจุของโถผงบด(ก.): ไม่ระบุ |
ประเภทฟันบด: Conical Burr Grinder |
เครื่องบดกาแฟไฟฟ้าที่จะช่วยตอบโจทย์ผู้ใช้สำหรับใช้งานในบ้านได้เป็นอย่างดี ตัวเครื่องมีกำลังไฟ 150 วัตต์ สามารถปรับระดับความละเอียดได้หลากหลายถึง 15 ระดับ
ไม่ว่าจะหยาบหรือละเอียด เหมาะกับการทำกาแฟได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น Drip ,French Press,Mocca หรือ Espresso ง่ายๆจบได้ที่เครื่องนี้เช่นเดียวกันค่ะ
โถใส่เมล็ดสีใส ใส่เมล็ดกาแฟได้ลูงสุดถึง 300 ก. ใช้งานง่ายเพียงหมุนลูกบิดทางด้านหน้าและด้านข้างของตัวเครื่องตามฟังก์ชั่นการทำงานเลย
ตัวบอดี้ทำจากสแตนเลสสตีล แข็งแรง ทนทาน ดีไซน์เรียบง่าย และยังมีไฟ LED โชว์ปริมาณผงกาแฟที่ต้องการให้ด้วย
ระยะเวลาการรับประกัน: 1 ปี
สิ่งที่ชอบ:
- เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้าใช้งานได้ง่ายกว่าแบบมือหมุน
- เหมาะกับการทำกาแฟทุกประเภท
- โถเมล็ดกาแฟมีขนาดใหญ่
- ปรับความละเอียดได้หลากหลาย
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ล้างทำความสะอาดไม่ได้
8.Oggi รุ่น Square SQ2

น้ำหนัก(ก.): ไม่ระบุ |
ความจุของโถผงบด(ก.): ไม่ระบุ |
ประเภทฟันบด: Flat Burr Grinder |
เครื่องบดกาแฟขนาดเล็กกระทัดรัด สำหรับใช้งานในบ้าน สามารถบดกาแฟได้ไม่ว่าจะเป็น French Press ไปจนถึง Espresso เครื่องบดแม่เหล็กไฟฟ้าที่จะทำให้คุณหลงรัก ทำงานเร็ว ประหยัดเวลา สะดวกต่อการใช้งานได้เป็นอย่างมาก
โดยคุณสามารถปรับความละเอียดได้ถึง 17 ระดับ ใช้งานง่าย ฟันบดแบบแบนทำให้เมล็ดกาแฟที่ถูกบดมีความสม่ำเสมอ ตัวโถใส่เมล็ดได้ถึง 250 ก. อกจากนี้ตัวเครื่องยังหยุดการทำงานอัตโนมัติตามการตั้งค่าที่เราได้ตั้งไว้
ระยะเวลาการรับประกัน: 6 เดือน
สิ่งที่ชอบ:
- ขนาดเล็ก กระทัดรัด
- บดกาแฟได้หลากหลายตั้งแต่แบบหยาบและแบบละเอียด
- ปรับละดับความระเอียดได้ 17 ระดับ
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ล้างทำความสะอาดไม่ได้
9.เครื่องบดกาแฟ Baratza Encore

น้ำหนัก(ก.): 3.1 |
ความจุของโถผงบด(ก.): 140 |
ประเภทฟันบด: Conical Burr Grinder |
เครื่องทำกาแฟไฟฟ้าที่เหมาะกับการทำกาแฟตั้งแต่ French Press ไปจนถึงแบบ Espresso เลยค่ะ มาทำให้การบดกาแฟของคุณเป็นเรื่องง่าย
เพราะตัวเครื่องเขาออกมาแบบมาให้เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานในบ้านโดยเฉพาะ มอเตอร์พลังสูงแต่เย็นเร็วและยังมีปุ่มเปิดปิด ใช้งานเพียงง่ายดาย
ขนาดเฟืองบด 40 มม. ที่จะช่วยบดเมล็ดกาแฟสำหรับประเภทกาแฟที่หลากหลาย ตั้งแต่หยาบไปจนถึงละเอียด ปรับประเภทของผงที่ต้องการบดได้ถึง 40 ระดับและเฟืองบดยังคม ทนทาน อยู่คู่บ้านไปได้อีกหลายปีเลยทีเดียวค่ะ
ระยะเวลาการรับประกัน: ไม่ระบุ
สิ่งที่ชอบ:
- สามารถบดได้ทั้งแบบหยาบและละเอียดได้ดี
- ตัวเครื่องทำงานเร็ว เย็นเร็ว
- ปรับระดับคามละเอียดของเมล็ดกาแฟได้ถึง 40 ระดับ
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ล้างทำความสะอาดตัวเครื่องไม่ได้
10.Coffee Bean Grinder เครื่องบดกาแฟวินเทจ

น้ำหนัก(ก.): ไม่ระบุ |
ความจุของโถผงบด(ก.): 120 |
ประเภทฟันบด: ไม่ระบุ |
เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน ไสตล์วินเทจ เหมาะกับคนที่ชอบดื่มกาแฟแบบดริปมากกว่าแบบespresso เพราะเนื้อกาแฟไม่มีความสม่ำเสมอและไม่ละเอียดมากนัก
และยังเป็นเครื่องบดกาแฟที่มีราคาถูกและคุ้มค่ากับการใช้งาน วัสดุของตัวบดมีทั้งสแตนเลสและเซรามิก ถือว่าค่อนข้างใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวช่องใส่ผงกาแฟเป็นแก้วสีใส สามารถมองเห็นผงกาแฟได้ใน
ระยะเวลาการรับประกัน: ไม่ระบุ
สิ่งที่ชอบ:
- ขนาดเล็กกระทัดรัด
- ใช้งานกับกระแฟประเภทดริปได้ดี
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ไม่มั่นใจในเรื่องของอายุการใช้งาน
วิธีเลือกเครื่องบดกาแฟสำหรับผู้เริ่มต้น
เลือกประเภทของเครื่องบดกาแฟตามรูปแบบการใช้งาน
เครื่องบดกาแฟแบ่งตามลักษณะการใช้งานมีอยู่ 2 ประเภททั่วไปได้แก่ เครื่องบดกาแฟสำหรับการใช้งานแบบมือหมุน (Manual coffee grinder) และเเบบไฟฟ้า (Electronic coffee grinder)
แล้วเครื่องบดกาแฟแบบมือหมุนหรือแบบไฟฟ้าดีกว่ากัน? ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล ว่าชอบแบบไหนมากกว่า เรามาดูกันว่าทั้งสองแบบแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
เครื่องบดกาแฟสำหรับการใช้งานแบบมือหมุน (Manual coffee grinder)
เครื่องบดกาแฟยี่ห้อไหนดี ที่เป็นแบบมือหมุนส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กพอดีมือ พกพาสะดวก ไม่ว่าจะต้องออกนอกบ้าน ไปตั้งแคมป์เดินป่าก็พกเครื่องบดกาแฟแบบมือหมุนติดตัวไปได้เลย
การใช้งานก็แสนง่าย เพราะไม่มีฟังก์ชั่นการทำงานที่ซับซ้อน และที่สำคัญยังบดเมล็ดกาแฟได้ตั้งแต่แบบหยาบไปจนถึงละเอียดมาก แถมมีราคาไม่แพงด้วยค่ะ
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเครื่องบดกาแฟนั้นว่า เราสามารถปรับความละเอียดได้แบบไหนบ้าง ซึ่งแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันออกไป
เนื่องจากเขามีขนาดเล็ก จึงมีช่องใส่ผงกาแฟบดที่เล็กตามไปด้วย ไม่เหมาะกับการทำปริมาณมากๆเพราะจะต้องใช้เวลาและแรง ดังนั้นจึงเหมาะกับการบดกาแฟสำหรับทานคนเดียวมากกว่าค่ะ
สิ่งที่ชอบ:
- ขนาดเล็ก พกพาได้
- ใช้งานง่าย
- บดเมล็ดกาแฟได้ทั้งแบบหยาบจนถึงแบบละเอียด
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- จำกัดปริมาณของเมล็ดกาแฟ
- จำกัดในเรื่องของระดับความละเอียด
เครื่องบดกาแฟสำหรับการใช้งานแบบไฟฟ้า (Electronic coffee grinder)
ถ้าหากคุณต้องการเน้นความสะดวกสบายในการใช้งาน เครื่องบดกาแฟยี่ห้อไหนดี ที่แนะนำอีกอันคือแบบไฟฟ้านั่นเอง ซึ่งเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
เขาจะมีขนาดและฟังก์ชั่นทำงานเช่น ความละเอียดของเมล็ดกาแฟ ที่มากกว่าแบบมือหมุน ในบางรุ่นสามารถตั้งเวลาได้เอง มีดีไซน์ที่สวยทันสมัย และใช้งานง่ายเช่นกัน
เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้ามีหลายราคาไม่ว่าตั้งแต่ราคาเบาๆ ไปจนถึงราคาแพง ขึ้นอยู่กับคุณภาพวัสดุและคุณสมบัติที่พิเศษของตัวมันเอง ดังนั้นจะต้องพิจรณาให้รอบคอบก่อนที่จะซื้อ เพื่อที่เราจะไม่เสียใจภายหลังด้วยค่ะ
เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้าค่อนข้างเสียงดังพอสมควร อาจก่อให้เกิดความรำคาญใจแก่ผู้ใช้งาน แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาหลักของการใช้งานที่ส่งผลต่อรสชาติของเมล็ดกาแฟ
สิ่งที่ชอบ:
- สะดวก สบาย ใช้งานง่าย
- มีฟังก์ชั่นการทำงานที่มากกว่าแบบมือหมุน
- มีหลายเกรดให้เลือกซื้อ
- ทนทาน
- บดกาแฟได้ปริมาณมาก
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- ค่อนข้างเสียงดัง
เลือกประเภทของเครื่องบดกาแฟตามรูปแบบของตัวบดกาแฟ
ในเครื่องบดกาแฟแบ่งประเภทตัวบดกาแฟได้เป็น 2 แบบได้แก่ แบบใบมีด และ แบบฟันบด ซึ่งทั้งสองแบบให้งความสม่ำเสมอของผงกาแฟที่แตกต่างกันออกไป
เครื่องบดกาแฟแบบใบมีด (Blade Grinder)
เหมาะกับ: ผู้ที่เริ่มต้นบดกาแฟใหม่ใช้เองที่บ้าน
แบบใบมีดส่วนใหญ่จะมีราคาถูกกว่าแบบฟันบด แถมยังทำงานได้ดีเช่นกัน ลักษณะของเขาเป็นใบมีดคล้ายๆในเครื่องปั่นทั่วไป
ทำงานโดยการที่ใบมีดหั่น สับ หรือปั่นเมล็ดกาแฟ ตามระดับความละเอียดที่ต้องการ ดังนั้นความละเอียดจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ใช้ในการปั่นด้วย
แต่อย่างไรก็ตามการใช้งานแบบใบมีดนี้ทำให้ความละเอียดของเมล็ดกาแฟไม่สม่ำเสมอ บ้างหยาบ บ้างละเอียดเป็นแป้ง และยังเกิดความร้อนจากการทำงาน
ซึ่งอาจมีผลต่อรสชาติที่ผิดเพี้ยนของเมล็ดกาแฟได้แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียรสชาติไปทั้งหมดค่ะ
เครื่องบดกาแฟแบบฟันบด (Burr Grinder)
เหมาะกับ: ทุกคนสามารถใช้ได้
แบบฟันบดจะเป็นพื้นฐานของเครื่องบดกาแฟที่ใช้ตามบ้านหรือตามคาเฟ่ต่างๆ ที่ต้องการปรับความละเอียดของเมล็ดกาแฟหลายระดับ
ตั้งแต่แบบหยาบไปจนถึงแบบระเอียด และบดเมล็ดกาแฟให้ออกมาสม่ำเสมอ พบได้ทั้งในแบบมือหมุนและไฟฟ้า
วัสดุหลักของเฟืองบดได้แก่ เหล็ก และเซรามิก โดยเหล็กร้อนเร็ว เย็นไว ทนต่อความร้อน และยังถูกมากกว่าแบบเซรามิก แต่มีข้อเสียคือมีอายุการใช้งานสั้นกว่า
ส่วนแบบเซรามิกจุดเด่นของเขาคือ การบดเมล็ดกาแฟได้ดี มีความคมและอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่เมื่อใช้งานไปนานๆอาจะเกิดการบิ่น
ทำให้ไม่สามารถควบคุมขนาดของผงกาแฟที่ต้องการบดได้ แบบเซรามิกมักจะเจอตามเครื่องบดที่ใช้สำหรับในบ้าน ส่วนแบบเหล็กจะนิยมใช้ตามคาเฟ่ร้านกาแฟต่างๆมากกว่า
สรุปโดยรวมคือ คุณจำเป็นต้องเลือกเครื่องบดกาแฟที่ตอบโจทย์ประเภทของกาแฟที่คุณชอบดื่ม และในท้องตลาดมีเครื่องบดกาแฟจำนวนมาก
ทำให้คุณจะต้องพิจรณาให้ละเอียดรอบคอบก่อน บทความของเราก็ได้แนะนำการเลือกซื้อ และรีวิวทั้ง 10 อันดับ เครื่องบดกาแฟยี่ห้อไหนดี และเป็นที่นิยม แล้วเจอกันในบทความถัดไปค่า เรายังมีบทความดีๆอีกหลายบทความ ฝากติดตามด้วยน้า